19 พฤศจิกายน 2025
Home » ข่าวเด่น » อนุทิน เปิดงาน “สุขกาย สบายกระเป๋า”ให้ประชาชนซื้อยาถูกนอก รพ.

อนุทิน เปิดงาน “สุขกาย สบายกระเป๋า”ให้ประชาชนซื้อยาถูกนอก รพ.

SHARE THIS

อนุทิน เปิดงานโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ลดภาระค่าใช้จ่าย30,000 ล้านบาท ให้ประชาชนเข้าถึงการรักษามากขึ้น
.

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ระหว่างกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน

.
โดยมีนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมการค้าภายใน อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ผู้แทนจากโรงพยาบาล และตัวแทนร้านขายยาทั่วประเทศ ร่วมงาน
.
นายอนุทิน กล่าวเปิดโครงการว่า วันนี้ได้มาร่วมกับทุกท่าน เพื่อเป็นสักขีพยานในการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจและสาธารณสุขครั้งสำคัญของประเทศไทย ถือเป็นการปรับเปลี่ยนแนวทางการให้บริการทางการแพทย์ครั้งยิ่งใหญ่ รัฐบาลให้ความสำคัญกับงานด้านสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชน ปัจจุบันโรงพยาบาลรัฐมีผู้ป่วยไปรอรับการรักษาจำนวนมาก
.
ขณะที่การไปใช้บริการที่โรงพยาบาลเอกชนมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งค่ายาและค่าเวชภัณฑ์ รัฐบาลมีนโยบาย Quick Big Win ที่ต้องการลดค่าครองชีพของประชาชนในทุกมิติ จึงได้มอบนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข หาแนวทางแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ด้านการรักษาพยาบาล โดยได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน โดยเฉพาะสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ในการขับเคลื่อนนโยบายนี้ร่วมกัน
.
โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” เป็นหนึ่งใน Quick Big Win ที่เน้นกระตุ้นสั้น ได้ผลยาว และกระจายตัว โดยให้โรงพยาบาลเอกชนเปิดเผยรายการยาและค่ายา เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้รับบริการที่โรงพยาบาลเอกชนมีข้อมูลที่ชัดเจน สามารถตัดสินใจเลือกซื้อยาในโรงพยาบาล หรือนอกโรงพยาบาลได้ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน และสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยได้

 

 

 

 

.
ทั้งนี้ ในภาพรวมจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชน เข้าถึงโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้น และลดความแออัดในโรงพยาบาลรัฐ วันนี้มี 4 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการค้าภายใน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสมาคมโรงพยาบาลเอกชนที่ร่วมลงนาม MOU ด้วยกัน

.
ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดความร่วมมือในการแสดงรายละเอียดในใบสั่งยาของโรงพยาบาลเอกชนอย่างถูกต้องและครบถ้วน โดยต้องแสดงรายการยา ข้อบ่งใช้ยา และราคายา เพื่อให้ผู้รับบริการมีข้อมูลสำหรับการตัดสินใจเลือกซื้อยาในโรงพยาบาลเอกชน หรือจะนำใบสั่งยาไปซื้อยาที่ร้านขายยานอกโรงพยาบาล

.
“ผมมีความยินดีที่ทราบว่าในขณะนี้มีโรงพยาบาลเอกชนสมัครใจเข้าร่วมโครงการแล้วมากกว่า 300 แห่ง และ มีร้านขายยามากกว่า 3,400 แห่งลงทะเบียนกับทาง อย. และมีตราสัญลักษณ์โครงการเตรียมพร้อมที่จะให้บริการแก่ประชาชนแล้ว
.
นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถรับบริการผ่านช่องทาง Telepharmacy ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสภาเภสัชกรรมได้ด้วย นโยบายนี้จะทำให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมด้านราคา และมั่นใจได้ว่า ได้ซื้อยาจากร้านขายยาที่มีคุณภาพมาตรฐาน คาดว่าจะช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี และยังเป็นการพัฒนาและยกระดับการบริการสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส และเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ขอขอบคุณทุกภาค
.
ส่วนที่ให้การสนับสนุนโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” และทำให้เกิด MOU นี้ขึ้น รัฐบาลเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ และสมาคมโรงพยาบาลเอกชนในครั้งนี้จะทำให้การสาธารณสุขของประเทศ เป็นการให้บริการที่เข้าถึงคนไทยทุกคน และสร้างความเชื่อมั่นให้ชาวต่างชาติและนักลงทุนซึ่งเป็นการยกระดับการพัฒนาระบบสุขภาพและอุตสาหกรรมทางการแพทย์ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง” นายอนุทินกล่าว
.
ทั้งนี้ ภายหลังพิธีฯ นายกฯ และคณะได้เยี่ยมชมนิทรรศการโรงพยาบาลเอกชนและร้านขายยา ณ บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี เพื่อร่วมทดลองใช้บริการการรับยาภายในโรงพยาบาลภายใต้โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า”
.
#สุขกายสบายกระเป๋า #ลดค่ายา #ซื้อยานอกโรงพยาบาล #ข่าวจริง #thefacts #facts #fact
.


SHARE THIS