เริ่ม 20 ส.ค. รัฐคิกออฟ เปิดพื้นที่-ลดค่าเช่า จัดตลาดนัดขายของถูกทั่วไทย

นายกฯ เดินหน้าโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย 3 เดือน เริ่ม 20 ส.ค.นี้ เปิดพื้นที่ทั่วประเทศ ศาลากลาง ลดค่าเช่าแผง ขายสินค้าราคาถูกช่วย SME คนตัวเล็ก ลดค่าครองชีพ 7 พันล้าน
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเดินหน้าโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย 3 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหา เสริมขีดความสามารถให้กับประชาชนผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยโครงการนี้จะดำเนิน ระหว่างที่รัฐบาลกำลังดำเนินการโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในช่วงไตรมาส 4
ทั้งนี้ การจัดทำโครงการฯ ว่าด้วยแนวความคิดตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือแบ่งเบา ผู้ประกอบการรายเล็ก เติมเงินในกระเป๋าให้กับประชาชน และลดภาระค่าครองชีพครั้งใหญ่ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยจะขับเคลื่อนโครงการนี้ กำหนดระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 20 สิงหาคม – 20 พฤศจิกายน 2567 แบ่งเป็น 3 โครงการ ดังนี้
- ลดต้นทุนผู้ประกอบการรายเล็ก จะร่วมกับภาครัฐทุกกระทรวง ทำการลดค่าเช่าร้านค้า ค่าเช่าแผงตลาด กว่า 30,000 แผง โดยมีตลาดที่อยู่ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตลาดในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่สำคัญ รวมทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์
- จัดตลาดนัดพาณิชย์ทั่วประเทศ กำหนดไว้ 4 รูปแบบ คือ
- ตลาดพาณิชย์ ให้ผู้ประกอบการรายเล็ก โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 76 จังหวัด จะร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนจัดหาพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันในราคาถูก อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ทั้ง 76 จังหวัด ระยะเวลา 3 เดือน
- ตลาดนัดพาณิชย์บวกการจำหน่ายสินค้าธงฟ้า เพื่อช่วยผู้ประกอบการรายเล็กได้ขายสินค้าและให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าราคาถูก กำหนดจัดในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ศาลากลางจังหวัด สถานที่ท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม ปั๊มน้ำมัน มหาวิทยาลัย ลานหน้าห้างค้าส่ง-ปลีก ลานหน้าห้างท้องถิ่น หมู่บ้านจัดสรร
- ตลาดพาณิชย์ บวกธงฟ้า และหอการค้าแฟร์ ซึ่งจะเป็นงานใหญ่ ลดทั้งจังหวัด
- ตลาดพาณิชย์เคลื่อนที่ บวกรถโมบายธงฟ้า จะส่งเข้าถึงพื้นที่ชุมชนห่างไกลทั่วประเทศ
- ร่วมมือผู้ผลิตและผู้ค้าส่งรายใหญ่ จัดมหกรรมลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ ภายใต้ Campaign “ลดกระหน่ำทั้งประเทศ” และในช่วงเทศกาล โดยมีผู้ประกอบการเอกชนพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการส่วนนี้กับรัฐบาล
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือนตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.-20 พ.ย.2567 เสนอท่านนายกฯ ซึ่งรัฐบาลจะร่วมมือกันในการทำ เพราะเห็นถึงความยากลำบากของพี่น้องประชาชน เราคิดว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตล่าช้าไปนิดหนึ่ง มีช่วงว่าง 3 เดือนที่ยังไม่มีอะไรมาทดแทน โครงการนี้จะทำให้มีความพร้อมก่อนเข้าสู่ ดิจิทัล วอลเล็ต ช่วยสร้างรายได้ ลดรายจ่ายของพี่น้องประชาชน โดยเน้นที่ SME ผู้ประกอบการรายเล็ก ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่มาช่วย จะเริ่ม Kick off วันที่ 20 ส.ค.นี้ หลังจากเดินทางไป ครม.สัญจร
ทั้งนี้ เป้าหมายในการลดรายจ่าย เช่น จัดสถานที่ออกร้านให้กับเกษตรกร ผู้ค้ารายย่อยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ค่าเช่าแผง หรือลดราคาให้มากที่สุด ได้เจรจากับกระทรวงมหาดไทยใช้ศาลากลางจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นศูนย์ประสานงาน มีพาณิชย์จังหวัดขับเคลื่อน และใช้สถานที่ท่องเที่ยว ตลาดใหญ่ต่างๆทั่วประเทศ และกระทรวงกลาโหมมีพื้นที่ 3,000 กว่าแห่ง ที่สามารถเข้าไปใช้ได้ รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวขายสินค้าเป็นกรณีพิเศษ และจะมีรถของกลาโหมมาทำรถโมบาย
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะใช้ อสม.ลงพื้นที่ประสานงานท้องที่ และสำหรับพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีรถธงฟ้า เราจะส่งเสริมให้ประชาชนขายผ่านรถพุ่มพวงโดยเราจะส่งสินค้า อาทิ หมู ไก่ น้ำตาล น้ำมัน สินค้าอุปโภคบริโภคที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน
นายภูมิธรรมกล่าวว่า หลังจากวันที่ 20 ส.ค. นี้ จะเปิดพร้อมกันทั่วประเทศ ทุกจังหวัด เป็นความร่วมมือกันของภาครัฐ กระทรวงต่างๆ ภาคเอกชนและสมาคมต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้ง สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย กลุ่มบริษัทผู้ผลิตสินค้า ยูนิลิเวอร์ ไทยเบฟเวอเรจ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งท่านนายกฯสั่งการให้ไม่กระทบร้านค้ารายย่อย เราจะดึงร้านค้ารายย่อยให้มีส่วนร่วมในโครงการนี้ และเมื่อลดค่าใช้จ่ายเกษตรกรผู้ผลิตก็ต้องไม่ถูกกดราคา
“ประเมินขั้นต้นว่าสามารถลดค่าใช้จ่ายให้พี่น้องประชาชนได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นพื้นฐานก่อนที่ดิจิทัลวอลเล็ตออก ให้ประชาชนสามารถเพิ่มการลงทุน ค้าขายได้ทั่วประเทศ ถือเป็นมติให้ดำเนินการและกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานทั้งหมด”