19 พฤศจิกายน 2025
Home » ข่าวเด่น » ร้านค้าประเภทไหนร่วม คนละครึ่งพลัสได้บ้าง เผย 6 เงื่อนไขต้องรู้ก่อน

ร้านค้าประเภทไหนร่วม คนละครึ่งพลัสได้บ้าง เผย 6 เงื่อนไขต้องรู้ก่อน

SHARE THIS

คลัง เปิดประเภทร้านค้า ที่เข้าร่วม คนละครึ่งพลัสได้ พร้อมเผย 6 เงื่อนไขสำคัญ ที่ร้านค้าต้องรู้ ก่อนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 ต.ค.เป็นวันแรก ที่มีการเปิดลงทะเบียนร้านค้า เพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส  โดยมีตัวอย่างร้านค้าที่เข้าร่วมได้   เช่น

 

  • ร้านอาหารและเครื่องดื่ม / สินค้าเพื่อการบริโภค สินค้าเพื่อการอุปโภคและทั่วไป
  • ร้านอาหารข้างถนน (Street Food)
  • ร้านคาเฟ่ (Cafe)
  • ร้านขายของกิ๊ฟช็อป ของที่ระลึก ของฝาก
  • ตลาดสด แผงเช่า
  • ร้านขายของฝาก
  • ร้านขายของใช้ อุปกรณ์ต่าง ๆ
  • ตลาดนัด หาบเร่ แผงลอย
  • ร้านขายของชำ
  • ร้านอะไหล่ทุกชนิด น้ำมันเครื่อง
  • ร้านขายเสื้อผ้าดังนี้

 

 

กระทรวงการคลังได้ระบุรายละเอียดประเภทร้านค้า  และวิธีการลงทะเบียนร้านค้า ดังนี้

 

1.1 เป็นผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการร้านค้าฯ) ดังนี้

1.1.1 ผู้ประกอบการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ

1.1.2 ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านค้าธงฟ้าฯ) ที่ไม่ใช่นิติบุคคล เว้นแต่เป็นร้านค้าธงฟ้าฯ ของสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือ

1.1.3 ร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547 (พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ) หรือ

1.1.4 ร้านค้าของวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ)

ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ และต้องมีการประกอบการที่สามารถตรวจสอบได้

 

1.2 เป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม ที่มีสัญชาติไทย ดังนี้

1.2.1 ผู้ประกอบการบริการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ

1.2.2 ผู้ประกอบการบริการของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตาม พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ หรือ

1.2.3 ผู้ประกอบการบริการของวิสาหกิจชุมชนตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ

ทั้งนี้ ต้องมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งและตรวจสอบได้ และกรณีเป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา จะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย

 

 

1.3. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยและไม่ใช่นิติบุคคล (ผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะฯ) ดังนี้

1.3.1 ผู้ประกอบการประเภทรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI – METER) รถตู้โดยสารประจำทางทีจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถสองแถวรับจ้าง และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย

1.3.2 ผู้ประกอบการรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสารที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น สามล้อถีบ เป็นต้น

 

1.4 เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ ได้แก่ รถไฟฟ้าในเขตเมือง รถไฟรถโดยสารประจำทางสาธารณะ และเรือโดยสารสาธารณะ (ผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะฯ)

 

1.5 เป็นนิติบุคคลขนาดเล็ก เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 68 และงบการเงินตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567 ซึ่งขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนวด สปา หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะจะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย

 

1.6 ร้านค้าจะต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกสำนักงานเศรษฐกิจการคลังระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 – 5

 

 

สำหรับแนวทางการลงทะเบียนร้านค้า

2.1 กรณีเป็นผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”

2.2 กรณีเป็นผู้ประกอบการร้านค้าฯ ผู้ประกอบการบริการฯ หรือผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะฯ นอกเหนือจากที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธ. กรุงไทยฯ)

2.3 กรณีเป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะฯ นอกเหนือจากที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ด้วยการเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” โดยตรงกับ        ธนาคารกรุงไทย

 

ทั้งนี้ กรณีผู้ประกอบการตามข้อ 2.1 และข้อ 2.2 หากไม่ปรากฏข้อมูลการประกอบกิจการของผู้ประกอบการดังกล่าวในฐานข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ (ไม่มีแบนเนอร์ “คนละครึ่ง พลัส” ขึ้นแสดงในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”) จะต้องได้รับการยืนยันว่าร้านค้ามีการประกอบกิจการจริงจากเจ้าหน้าที่ที่กระทรวงมหาดไทยหรือกรุงเทพมหานครมอบหมาย แล้วแต่กรณี ก่อน จึงนำใบสมัครไปยื่นผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย

 

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม

  1. เว็บไซต์โครงการฯ: ติดตามรายละเอียดโครงการฯ และข้อมูลข่าวสารได้ทาง www.คนละครึ่งพลัส.com
  2. ศูนย์ช่วยเหลือสำหรับประชาชน:

2.1 ติดต่อสอบถาม โทร. 0 2111 1122 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

2.2 ตรวจสอบผลการลงทะเบียนหรือวงเงินคงเหลือ โทร. 0 2111 1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

  1. ศูนย์ช่วยเหลือสำหรับร้านค้า:

– ติดต่อเกี่ยวกับรายการรับเงินภาครัฐ และการใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” โทร. 0 2111 1111 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

– ตรวจสอบสถานะลงทะเบียนร้านค้า โทร. 0 2111 1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

  1. สอบถามข้อมูลโครงการฯ:

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3510 3238 3313 3512 3532 หรือ 3502 ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

 

 #คนละครึ่งพลัส #ลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส #ลงทะเบียนร้านค้าคนละครึ่ง #ข่าวจริง #thefacts #facts #fact

 


SHARE THIS