ปั่นป่วนหนัก วันเดียวทองลดฮวบ 1,050 ค่าเงินอ่อนสุดรอบ 6 เดือนครึ่ง

ค่าเงิน-ทองคำผันผวนหนัก วันเดียว ทองลงแรง 1,000 บาท ค่าบาท 37.10 บาท อ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือนครึ่ง หลังสมรภูมิตะวันออกกลางไม่บานปลาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมค้าทองคำ ได้รายงานสถานการณ์ราคาทองคำ ประจำวันที่ 23 เม.ย.2567 ราคาทองคำ มีความผันผวนอย่างหนัก โดยมีการประกาศเปลี่ยนแปลงราคา 17 ครั้ง ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อน 1,050 บาท และระหว่างวันยังเคยปรับลดไปถึง 1,000 บาท หลังนักลงทุนคลายความกังวลจากสถานการณ์ตะวันออกกลาง โดยราคาทองล่าสุดมี ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
- รับซื้อ 40,250 บาท
- ขายออก 40,350 บาท
ทองรูปพรรณ
- รับซื้อ 39,522 บาท
- ขายออก 40,850 บาท
ด้าน เว็บไซต์ ฮั่วเซ่งเฮง รายงานว่า ราคาทองคำ spot ปรับตัวลงแรง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ภายหลังจากที่สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางลดลง ซึ่งอิสราเอลโจมตีอิหร่านเป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และอิหร่านไม่มีการตอบโต้กลับเช่นกัน ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ทั้งนี้ แนวโน้มราคาทองตลาดโลกแนวรับ 2,320 และ 2,300 ดอลลาร์ แนวต้าน 2,340 และ 2,355 ดอลลาร์ คาดว่าอาจมีการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในระยะสั้น หากการฟื้นตัวยังไม่สามารถทะลุผ่าน 2,340 ดอลลาร์ ก็ให้เปิดสถานะขายบริเวณ 2,340 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,350 ดอลลาร์
ค่าเงินบาทอ่อนค่ารอบ 6 เดือนครึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์ค่าเงินบาท ค่าเงินบาทเช้า วันที่ 23 เม.ย.67 เปิดตลาดที่ 37.10 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 37.01 บาทต่อดอลลาร์ ทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือนครึ่ง
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ได้ประเมินการเคลื่อนไหวเงินบาทสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.65-37.25 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยหลักๆ ของการอ่อนค่าของเงินบาท ช่วงที่ผ่านมาจากการที่ตลาดมองว่าปีนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเลื่อนการลดดอกเบี้ยออกไป โดยอาจลดแค่ 1-2 ครั้ง จากที่เมื่อต้นปีมองว่ามีโอกาสลดถึง 4-5 ครั้ง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เดินหน้าแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่งเกินคาด อีกทั้งเฟดสาขานิวยอร์กระบุว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลดดอกเบี้ยลงในเวลานี้
#ทองคำ #ราคาทอง #ทองลด1พัน #ทอง4หมื่น #บาทอ่อนค่า #ข่าวจริง #สมาคมค้าทองคำ #Thefacts #Thefactsnews