EXIM BANK เปิดสอนฟรี ขายของออนไลน์ บนเว็บ Amazon
EXIM BANK ร่วมมือ Amazon และกระทรวงพาณิชย์ เปิดคอร์สติว SMEs ขายของออนไลน์ บนเว็บ Amazon ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เผยว่า EXIM BANK ร่วมมือกับ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย (Amazon Global Selling Thailand) และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการอบรม “ติดปีกสินค้าไทย ขายออนไลน์ข้ามพรมแดนกับ Amazon” ให้แก่ธุรกิจ SMEs ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อพัฒนาศักยภาพ SMEs ไทยให้มีความพร้อมในการพัฒนาธุรกิจสู่ตลาดการค้าออนไลน์อย่างมั่นใจ ผ่านการฝึกอบรม จับคู่ทางธุรกิจ ให้คำปรึกษาด้านการเงิน แนะนำเครื่องมือบริหารความเสี่ยง และ Workshop การค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน (Cross Border E-commerce: CBEC) ไปยังตลาดสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ในการเข้าถึงเครือข่ายลูกค้าของ Amazon.com กว่า 300 ล้านคนทั่วโลก
ทั้งนี้ จัดโครงการอบรมจำนวน 2 ครั้ง ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม-18 กรกฎาคม 2566 ครั้งแรก EXIM BANK สำนักงานใหญ่ และครั้งสอง อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมี EXIM BANK และ Amazon คอยเป็นพี่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับการแข่งขันของธุรกิจไทยไปสู่ตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ ท่ามกลางความความท้าทายและโอกาสที่มีอยู่มากมายในตลาดโลก
สำหรับเนื้อหาการอบรม
- การเปิดบัญชีกับ Amazon
- การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและใบรับรององค์การอาหารและยาสหรัฐฯ
- การสร้างการบริหารจัดการคลังสินค้าและจัดส่งโดย Amazon (Fulfilment by Amazon : FBA)
- การเปิดหน้าร้านค้าบน com
- ให้ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ตลาด
- วิธีการค้าขายออนไลน์ข้ามพรมแดน
- การเตรียมผลิตภัณฑ์
- การจัดการร้านค้าบน com
- เครื่องมือบริหารความเสี่ยงสำหรับธุรกิจ E-commerce
- การวางแผนโปรโมทสินค้า
- ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ EXIM Contact Center โทร. 0 2169 9999 และ Amazon Global Selling Thailand โทร. 08 9505 0766
ดร.รักษ์ กล่าวว่า ในปี 2566 เศรษฐกิจและการค้าโลกต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งภาวะเงินเฟ้อ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และยุโรปส่งผลกดดันเศรษฐกิจโลก ทำให้ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงเหลือ 2.8% และการค้าโลกมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1.7%
อย่างไรก็ตาม พบว่าภาพรวมตลาดการค้าออนไลน์ (E-commerce) ของโลกยังมีแนวโน้มสดใส โดยคาดว่าจะขยายตัวกว่า 10% จาก 5.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 เป็น 6.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 และมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเป็น 6.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 และ 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 แต่ขณะเดียวกันผลสำรวจผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ที่ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนในปี 2565 พบว่า 90% มีความสนใจค้าขายข้ามพรมแดนผ่าน E-commerce แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ประสบปัญหาขาดความเข้าใจวิธีการ ขาดความรู้เกี่ยวกับตลาดต่างประเทศ จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการนี้

