31 ตุลาคม 2025
Home » ข่าวเด่น » สภาพัฒน์เผย จีดีพีไทยไตรมาส 3 โต 3% ปีหน้าห่วง 3 เรื่องกระทบคนไทย

สภาพัฒน์เผย จีดีพีไทยไตรมาส 3 โต 3% ปีหน้าห่วง 3 เรื่องกระทบคนไทย

SHARE THIS

เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ขยายตัว 3% ทั้งปียังอยู่ที่ 2.6% ส่วนปีหน้าจับตา 3 ปัจจัยเสี่ยง สงครามการค้า หนี้ท่วม และสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยสภาพัฒน์ คาดจีดีพีจะขยายตัว 2.3- 3.3%  

 

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 และแนวโน้มปี 2567-2568 ว่า  ไตรมาส 3 ปี 2567 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ของไทย ขยายตัว 3% เพิ่มขึ้นจาก 2.2% ในไตรมาสก่อนหน้า รวม 9 เดือนแรกของปี 2567 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.3%

 

ทั้งนี้ มีปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคนอกเกษตรที่ขยายตัว ตามการขยายตัวของกลุ่มบริการ ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตชะลอตัว และภาคการเกษตรปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ด้านการใช้จ่าย การส่งออกสินค้าและบริการ การอุปโภคของรัฐบาล และการลงทุนเร่งขึ้น ขณะที่การอุปโภคบริโภคของเอกชนชะลอตัว

 

“ภาคการท่องเที่ยวและบริการ มีการเติบโตที่ดี โดยสาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร ขยายตัว 8.4%  ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย 8.588 ล้านคน  ส่งผลให้รายได้การท่องเที่ยวในไตรมาสนี้อยู่ที่ 3.57 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.6% ส่วนการท่องเที่ยวภายในประเทศ ไทยเที่ยวไทยขยายตัว 6.6% สร้างรายรับ 2.25 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% ทำให้ไตรมาสนี้มีรายรับรวมจากการท่องเที่ยว 5.82 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.8% อัตราเข้าพักโรงแรม 68.60%  สูงกว่าปีก่อน  66.16%”

 

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2567 มองว่าจะขยายตัวได้ 2.6% ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่ขยายตัวได้ 1.9% และในปี 2568 จะขยายตัวได้ ในกรอบ 2.3 – 3.3% โดยมีค่ากลางที่ 2.8% มีปัจจัยสนับสนุนจาก

 

  • การเพิ่มขึ้นของการบริโภค 3%
  • การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 2.8%
  • การส่งออกขยายตัว 2.6% ขยายตัวต่อเนื่องจาก 3.8% ในปี 67
  • ขณะที่เงินเฟ้อคาดกรอบ 0.3-1.3 %

 

อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงจากนโยบายเศรษฐกิจของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯในการเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนและประเทศต่าง ๆ จะมีความรุนแรงอย่างไร รวมทั้งปัญหาการทุ่มตลาดสินค้าจีนจากสินค้าราคาถูก ทำให้เอสเอ็มอีไทยได้รับผลกระทบ ปัญหาหนี้ครัวเรือน อยู่ในระดับสูง ขณะนี้คลัง-ธปท. กำลังหามาตรการมาช่วยแก้ปัญหา ต้องเหลือกลุ่มเปราะบาง

 

นายดนุชา กล่าวว่า สำหรับการโอนเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบางช่วงสิ้นเดือนกันยายน จะเห็นผลชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 ส่วนกระทรวงการคลัง เตรียมช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุในปลายปีนี้ ต้องดูรูปแบบการใช้จ่ายอย่างไรบ้าง สำหรับการโอนเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ในปีหน้า ต้องดูช่วงเวลาให้เหมาะสม และดูสถานการณ์ในช่วงถัดไป เพราะมีความเสี่ยงหลายด้านจำนวนมาก ดังนั้นการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต้องให้ตรงเป้าหมายมากขึ้น ต้องหารือกันให้ชัดเจนอีกครั้ง

 

 

สำหรับข้อจำกัดและปัจจัยเสี่ยง ในปี2568 ได้แก่

  1. ความเสี่ยงจากแนวโน้มการขยายตัวต่ำกว่าที่คาดของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลกท่ามกลางความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลกความไม่แน่นอนจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ ความยืดเยื้อของสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ และแนวโน้มการชะลอตัวมากกว่าที่คาดของเศรษฐกิจจีน
  2. ภาระหนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูงภายใต้มาตรฐานสินเชื่อที่มีความเข้มงวดมากขึ้นหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่คุณภาพสินเชื่อปรับตัวลดลงส่งผลให้สถาบันการเงินเพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อมากขึ้นส่งผลให้มูลค่าสินเชื่อชะลอลง
  3. ความเสี่ยงจากความผันผวนในภาคการเกษตรทั้งผลผลิตและราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญ ๆแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของผลผลิตภายใต้สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยมากขึ้น จะสร้างแรงกดดันให้ราคาสินค้าเกษตรลดลง ท่ามกลางสถานการณ์ผลผลิตข้าวจากผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกที่เริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น

 

ทั้งนี้ ในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาคในช่วงที่เหลือของปี 2567 และปี 2568 ควรให้ความสำคัญกับ

  1. ขับเคลื่อนภาคการส่งออกให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือผลกระทบจากการยกระดับมาตรการกีดกันทางการค้าที่อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น
  2. การปกป้องภาคการผลิตจากการทุ่มตลาดและการใช้นโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรม
  3. การขับเคลื่อนการลงทุนภาคเอกชน โดยให้ความสำคัญกับการเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ โดยอาศัยประโยชน์จากการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคและความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานในการดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
  4. การดูแลเกษตรกรและสนับสนุนการปรับตัวในการผลิตภาคเกษตร
  5. การให้ความช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ที่ประสบปัญหาด้านการเข้าถึงสภาพคล่องเนื่องจากคุณภาพสินเชื่อปรับลดลงต่อเนื่อง

 

#จีดีพี #สภาพัฒน์ #สศช #จีดีพีไตรมาส3 #เศรษฐกิจดีไหม #ข่าวจริง #ดนุชา #thefacts #facts #fact