26 ตุลาคม 2025
Home » ข่าวเด่น » ศาลปกครองสูงสุด สั่งถอนใบอนุญาตสร้าง’แอชตัน อโศก’ อนันดา จี้รัฐต้องรับผิดชอบ

ศาลปกครองสูงสุด สั่งถอนใบอนุญาตสร้าง’แอชตัน อโศก’ อนันดา จี้รัฐต้องรับผิดชอบ

SHARE THIS

ศาลปกครองสูงสุด สั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง แอชตัน อโศก ด้าน อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จี้หน่วยงานรัฐต้องรับผิดชอบ

 

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโครงการคอนโด แอชตัน อโศก ตามที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน โดยนายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวกรวม 16 คน ได้ยื่นฟ้อง เนื่องจากใช้ทางร่วมกับที่ดินเวนคืนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอนันดา ดิเวลลอปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  เบื้องต้นบริษัทจะขอเวลาประมาณ 14 วัน เพื่อไปหารือหน่วยงานต้นเรื่องคือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) และกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อหารือและหาทางออกร่วมกัน จะดำเนินการแก้ไขและหาทางเยียวยาเรื่องนี้อย่างไร เนื่องจากไม่ได้เป็นความผิดของทางบริษัท เพราะบริษัทดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งการขอใบอนุญาตก่อสร้างและการขอใช้พื้นที่จาก รฟม. และได้จ่ายค่าตอบแทนให้รฟม.เกือบ 100 ล้านบาท โดยเรื่องนี้ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย รวมทั้งลูกบ้าน ลูกค้า และผู้ถือหุ้น

 

ปัจจุบัน  โครงการมีทั้งหมด 668 ยูนิต มูลค่ารวม 6,481 ล้านบาท มีผู้เข้าอยู่อาศัยหรือมีการโอนโฉนดไปแล้ว 580 ครัวเรือน หรือคิดเป็นมูลค่า 5,653 ล้านบาท แบ่งเป็นคนไทย 438 ราย ต่างชาติ 142 ราย คิดเป็น 84% และอยู่มานานกว่า 4 ปี 

 

ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บมจ.อนันดาฯ กล่าวว่า ลูกบ้านโครงการแอชตันฯ ยังสามารถอาศัยอยู่ในโครงการได้ เนื่องจากศาลมีคำสั่งแค่เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง แต่ยังไม่มีการเพิกถอนใบอนุญาตการใช้อาคาร เชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกนาน แต่บริษัทยืนยันว่าจะต้องหาทางออกและเยียวยาเรื่องที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด  

 

ขณะที่ เฟซบุ๊ค เพจ Ananda Development ได้เผยแพร่เอกสาร ชี้แจงว่า ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษาให้คดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวก ได้ยื่นฟ้องผู้อำนวยการเขตวัฒนาที่ 1 ผู้อำนวยการสำนักการโยธาที่ 2 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ 3 ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ที่ 4 คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และ บริการชุมชนที่ 5 และ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ซึ่งไม่ใช่ผู้ถูกฟ้องคดีโดยตรง แต่ถูกเรียกเข้ามาในฐานะเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากผลแห่งคดี

 

โดย ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษา ยืนคำพิพากษาศาลปกครองกลาง น้อมรับและเคารพในคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยไว้ในประเด็น สำคัญ ที่ว่า ที่ดินของ รฟม.ไม่อาจนำมาให้บริษัท ฯ หรือเอกชนใช้ในการทำโครงการได้ จึงทำให้หน่วยงานของรัฐไม่อาจออกใบอนุญาตในการก่อสร้าง จึงมีผลให้ใบอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมาย นั้น

 

บริษัท ฯ เห็นว่า ศาลปกครองซึ่งมีหน้าที่พิจารณาคดีพิพาท ระหว่างหน่วยงานของรัฐ และหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ กับเอกชน เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิ และ เสรีภาพของประชาชน รวมทั้ง เพื่อวางแนว หรือ สร้างบรรทัดฐานในการปฏิบัติราชการ ให้ถูกต้องชอบธรรม อีกทั้ง ภายใต้ กฎหมาย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทุกฉบับ รวมถึงฉบับปัจจุบัน พุทธศักราช 2560 ในส่วนบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับ หน้าที่ของรัฐ ในกรณีที่รัฐจะอนุมัติ หรือ อนุญาตให้ผู้ใด ทำการได้ก็จะต้องดำเนินการไปตามกฎหมายโดย รัฐมีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องใช้อำนาจและทำหน้าที่ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง ไม่ประมาทเลินเล่อ หรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายกับประชาชน หรือผู้ประกอบการ ยิ่งไปกว่านั้น หากมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังเกิดขึ้นเป็นคดีนี้แล้ว หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ ต้อง รับผิดชอบและทำ การเยียวยา ใน ความเดือดร้อนเสียหายที่เกิดขึ้น อย่างเป็นธรรมและโดยไม่ชักช้า

 

ดังนั้น ผลแห่งคำพิพากษาที่เกิดขึ้นดังกล่าว หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น อย่างไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ต่อเจ้าของร่วมอาคารชุด และบริษัทฯ เพราะหากหน่วยงานราชการผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่เห็นชอบและอนุมัติแล้วโครงการนี้จะไม่สามารถก่อสร้างได้ตั้งแต่แรก ซึ่งจะไม่เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงอย่างที่เป็นอยู่ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเร่งรีบดำเนินการในการเรียกร้องค่าเสียหายกับ หน่วยงาน ของรัฐ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเยียวยาความเสียหายแก่เจ้าของร่วมอาคารชุดและ บริษัทฯ โดยเร็ว รวมทั้ง บริษัทฯ จะดำเนินการประสานงานคณะกรรมการนิติบุคคลแอชตัน อโศก และท่านเจ้าของร่วมเพื่อขอเข้าพบผู้ว่าราชราชการกทม. และผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เพื่อทวงถามเพื่อทวงถามความรับผิดชอบความรับผิดชอบในความเสียหายในความเสียหายที่เกิดขึ้นที่เกิดขึ้น ภายใน 14 วัน นับแต่วันนี้นับแต่วันนี้

 

บริษัทฯ ขอยืนยันว่า การทำทาโครงการแอชตัน อโศก นั้น ได้มีการตรวจสอบประเด็นทางกฎหมาย รวมทั้งข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตต่าง ๆ รวมทั้งๆ รวมทั้งสภาพที่ดินของโครงการอย่างรอบคอบรัดกุม อีกทั้งการพิจารณาอนุมัติในการทำโครงการต่าง ๆ ยังได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติ และภายใต้การกำกับควบคุม จากหน่วยงานของรัฐไม่ต่ำกว่า 8 หน่วยงาน จึงเป็นที่เห็นประจักษ์และยืนยันได้ว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการไปด้วยความสุจริต และชอบด้วยกฎหมายอย่างชัดแจ้งทุกประการเท่าที่บริษัทฯจะทำได้ ด้วยความเชื่อถือโดยสุจริตว่าการอนุมัติของหน่วยงานราชการทุกฝ่ายนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว บริษัท ฯ จึงใคร่ขอความเป็นธรรมจากทุกภาคส่วน ที่จะร่วมกันแก้ไขภาคส่วนที่จะร่วมกันแก้ไขป้องกันมิให้ปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นคดีนี้อีก และเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐ ได้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยเร็ว