พาณิชย์ หั่นเป้าเงินเฟ้อปี 66 เหลือ 1.5% หลังเดือนมิ.ย. ต่ำสุดใน 22 เดือน

หั่นเป้าเงินเฟ้อปีนี้ เหลือ  1.5% จากเดิม  2.2%  หลังเงินเฟ้อ มิ.ย.66 ชะลอตัว 6 เดือนติด ต่ำสุดรอบ 22 เดือน  เนื้อสัตว์อาหาร น้ำมันราคาลดลง   

นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนมิ.ย.66 เท่ากับ 107.58 เพิ่มขึ้น 0.23% เทียบกับเดือนมิ.ย.65 ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงต่อเนื่อง 6 เดือนติด และต่ำสุดในรอบ 22 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ย.64 โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มเนื้อสัตว์และเครื่องประกอบอาหาร และการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงฐานราคาในเดือนมิ.ย.65 ที่ใช้คำนวณเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 2.49%

ทั้งนี้ หากแยกปัจจัย ที่ทำให้เงินเฟ้อเดือน มิ.ย.66 เพิ่มขึ้นเพียง 0.23% มาจากการสูงขึ้นของหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 3.37% ตามการสูงขึ้นของผักและผลไม้สด มะนาว ผักคะน้า กะหล่ำปลี เงาะ แตงโม ทุเรียน ไข่ไก่ และไข่เป็ด เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน ความต้องการเพิ่มขึ้น อาหารสำเร็จรูป รวมถึงผลิตภัณฑ์นมและข้าวสาร ราคาเปลี่ยนแปลงตามการจัดโปรโมชัน ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง เช่น เนื้อสุกร  เครื่องประกอบอาหาร ผักสดบางชนิด

ส่วนสินค้าหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 1.88% ตามการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉพาะหมวดดีเซล แก๊สโซฮอล์ และเบนซิน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ ของใช้ส่วนบุคคลและสิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด ส่วนสินค้าที่ราคาสูง เช่น ค่ากระแสไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม ค่าเช่าบ้าน ค่าการศึกษา ส่วนของเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนมิ.ย.66 เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก เพิ่มขึ้น 0.02% รวม 6 เดือนเพิ่มขึ้น 1.87%

นายวิชานันกล่าวว่า ไตรมาส 3 คาดว่าเงินเฟ้อจะยังขยายตัวค่อนข้างต่ำ เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีแนวโน้มทรงตัว ราคาเนื้อสัตว์ คาดว่าจะลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และไตรมาส 4 คาดว่าอยู่ที่ 0.62% จึงได้ปรับเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปีใหม่ จากเดิม 1.7-2.7% ค่ากลาง 2.2% เป็น 1-2% ค่ากลาง 1.5% อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลง จากราคาสินค้า ภัยแล้ง  และหากไม่ต่ออายุการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล หากขึ้นทันที จะกระทบต่อเงินเฟ้อ 0.26%