31 ตุลาคม 2025
Home » ข่าวเด่น » บัตรสวัสดิการเฮ 1 พ.ย. ได้รับวงเงินเพิ่มเป็น 1,150 บาท

บัตรสวัสดิการเฮ 1 พ.ย. ได้รับวงเงินเพิ่มเป็น 1,150 บาท

SHARE THIS

บัตรสวัสดิการเฮ รัฐบาลนัดโอนเงินค่าครองชีพเพิ่ม 1,150 บาท เข้าบัตร 13.4 ล้านคน วันที่ 1 พ.ย.นี้  เตือน คนละครึ่งพลัส ห้ามใช้ผิดวัตถุประสงค์ ติดคุก 3 ปี ถูกยึดเงินคืน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเติมวงเงิน 1,700 บาท ช่วยลดค่าครองชีพให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.4 ล้านราย ตามมติ ครม. นั้น ล่าสุด กระทรวงการคลังมีความพร้อมที่จะโอนแล้ว โดยจะแบ่งเติมวงเงินเป็น 2 รอบ ๆ ละ 850 บาท รอบแรกจะเติมเงินให้ผู้ได้สิทธิในวันที่ 1 พ.ย.นี้ วงเงิน  850 บาทเมื่อบวกกับวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ได้รับอยู่แล้วทุกเดือนๆ ละ 300 บาท จะทำให้ในวันที่ 1 พ.ย.มีวงเงินสำหรับใช้ซื้อสินค้า 1,150 บาท ส่วนงวดสองจะเติมให้อีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค.68 จำนวน 1,150 บาท

 

สำหรับการเติมเงินครั้งนี้ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับพร้อมกันทั้ง 13.4 ล้านรายโดยรัฐบาลได้อนุมัติใช้งบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นวงเงินทั้งสิ้น 22,780 ล้านบาท มีเป้าหมายเพื่อช่วยลดค่าครองชีพแก่ผู้มีรายได้น้อย ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชน ไปใช้จ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นกับร้านธงฟ้า หรือร้านค้าที่เข้าร่วมมากกว่า 1 แสนแห่ง ตามเงื่อนไขทีกำหนด แต่ห้ามแลก หรือถอนเป็นเงินสด

 

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าว ถึงความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งพลัสว่า  คลังได้เอาผิดเพิ่มเติมบุคคลที่ทุจริตในโครงการคนละครึ่งพลัสเพิ่มอีก 7 ราย จากที่พบผู้กระทำความผิดในวันแรก 3 ราย โดยทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการร้านค้าที่มีแอปพลิเคชันถุงเงิน ซึ่งคลังจะดำเนินึดีกับผู้กระทำอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้คลังได้ร่วมมือกับตำรวจในการะกระจายกำลังทั่วประเทศเพื่อตรวจสอบ และนำระบบการวิเคราะห์ข้อมูล มาตรวจหาผู้กระทำผิด

 

สำหรับบรรยากาศการใช้จ่ายคนละครึ่งพลัส วันแรกเมื่อวันที่ 29 ต.ค.68 มียอดการใช้จ่ายแล้ว 1,900 ล้านบาท มีผู้ใช้สิทธิ์ 7.85 ล้านคน และจำนวนร้านค้าใช้สิทธิ 520,397 ร้านค้า ส่วนในวันที่สองยังเป็นไปอย่างคึกคัก โดยประชาชนออกมาใช้สิทธิต่อเนื่อง ล่าสุด มีการใช้จ่ายสะสมกว่า 3,181 ล้านบาท  โดยส่วนใหญ่เป็นอาหารและเครื่องดื่มราว 52% ส่วนร้านค้าที่เข้าร่วมทั้งหมดมี 6.9 แสนราย  ส่วนมากอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน 20% ที่เหลือเป็นภาคต่างๆ 14-15% และภาคตะวันตกน้อยที่สุด

 

ด้านนางสาวอัยรินทร์  พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ขอเตือนผู้ได้สิทธิ และร้านค้าที่คนละครึ่งพลัส ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด  หากฝ่าฝืนอาจถูกระงับสิทธิได้ทันที โดยห้ามซื้อขายสินค้ากลุ่มต้องห้าม เช่น สลากกินแบ่งรัฐบาลเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล  และบัตรเงินสด รวมถึงการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า นอกจากนี้ ห้ามผู้ประกอบการรับหรือเรียกรับ ทอนเป็นเงินสด  โดยผู้ฝ่าฝืนมีโทษความผิดฐานฉ้อโกง จำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกระงับสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการอื่นของรัฐบาลตลอดจนต้องคืนเงินให้รัฐบาล

 

#บัตรสวัสดิการ #โอนเงินบัตรสวัสดิการ #บัตรสวัสดิการ #ข่าวจริง #thefacts #facts #fact