บขส.ปรับตารางเดินรถ สายเหนือ-อีสาน-ใต้ รับเปิดประเทศ 1 พ.ค.
บขส.ปรับตารางการเดินรถ สายเหนือ-อีสาน-ใต้ หลังรัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลายการเดินทาง เริ่ม 1 พ.ค.นี้ เส้นทางระหว่างประเทศยังไม่ให้บริการ
นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เผยว่า บขส. ปรับตารางการเดินรถใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้มีมาตรการผ่อนคลายในการเดินทางเข้าราชอาณาจักร เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป รวมถึงรองรับการเดินทางของประชาชนที่มีเพิ่มขึ้น
- เส้นทางภาคเหนือ จะเปิดให้บริการ 14 เส้นทาง อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ , กรุงเทพฯ-เชียงราย , กรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์, กรุงเทพฯ-น่าน, กรุงเทพฯ-แม่สอด, กรุงเทพฯ-แม่สาย, กรุงเทพฯ-เชียงคำ ,กรุงเทพฯ-อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย, กรุงเทพฯ-หล่มเก่า และกรุงเทพฯ-คลองลาน รวม 40 เที่ยววิ่ง
- เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก เปิดให้บริการ 24 เส้นทาง อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงคาน, กรุงเทพฯ-มุกดาหาร, กรุงเทพฯ-นครพนม, กรุงเทพฯ-โขงเจียม, กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ (แยกปักธงชัย), กรุงเทพฯ-หนองคาย, กรุงเทพฯ-สุรินทร์ (แยกปักธงชัย), กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ-อำนาจเจริญ, กรุงเทพฯ-ตราด, กรุงเทพฯ-รัตนบุรี และกรุงเทพฯ-สระบุรี รวม 54 เที่ยววิ่ง
- เส้นทางภาคใต้ เปิดให้บริการ 13 เส้นทาง อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ-ปัตตานี-ยะลา, กรุงเทพฯ-สงขลา, กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก, กรุงเทพฯ-หาดใหญ่, กรุงเทพฯ-คลองท่อม-กระบี่, กรุงเทพฯ-ดอนสัก-เกาะสมุย, หมอชิต2-ภูเก็ต, หมอชิต2-กระบี่, หมอชิต2-ตรัง-สตูล, หมอชิต2-เกาะสมุย, และหมอชิต2-นครศรีฯ-หัวไทร รวม 36 เที่ยววิ่ง เป็นต้น
- เส้นทางระหว่างประเทศ 15 เส้นทาง บขส. ยังหยุดการเดินรถชั่วคราว จนกว่าจะมีประกาศให้สามารถเปิดเดินรถระหว่างประเทศได้ ทั้งนี้ผู้ใช้บริการสามารถจองตั๋วและตรวจสอบตารางการดินรถ บขส. ผ่านช่องทางออนไลน์ Application E-Ticket และ Website บขส. transport.co.th หรือสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม โทร Call Center 1490 เรียก บขส.ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ได้สั่งกำชับให้ทุกฝ่ายของ บขส. เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกและรองรับการเดินทางของประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยว โดยเน้นย้ำให้ดำเนินการ ตามมาตรการความปลอดภัย 4 พร้อม ทั้งสถานีพร้อม คนพร้อม รถโดยสารพร้อม และบริการพร้อม ควบคู่ไปกับการดำเนินงานภายใต้มาตรการ COVID Free Setting สำหรับบริการขนส่งสาธารณะ อาทิ มีการตรวจวัดอุณหภูมิ เว้นระยะห่างในสถานีขนส่ง จัดให้มีการระบายอากาศที่ดีและเพียงพอ รถโดยสารทุกคันต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ส่วนพนักงานประจำรถ ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ Antigen Test Kit (ATK) ทุก 3 วัน และพนักงาน ขับรถ ต้องมีผลตรวจแอลกอฮอล์และสารเสพติดเป็นศูนย์ อย่างไรก็ดีในการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด รวมทั้งต้องเช็คอินบนแอพพลิเคชันไทยชนะ หรือกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด เมื่อเข้าใช้สถานีขนส่งฯและรถโดยสารด้วย


