เศรษฐกิจไทยแย่เกินคาด ปี 67 โตหลุดเป้า 2.5% แจกเงินหมื่นปลุกไม่ขึ้น

แจกเงินหมื่นเฟสแรก กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ขึ้น  คลังเผย จีดีพีปี 67 โตแค่ 2.5%  น้อยกว่าเป้าหมาย 2.7% หลังยอดผลิตรถยนต์ทรุดฮวบ ส่วนปี 68 ลุ้นโต 3.5%  

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า  สศค.ได้คาดการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 67 จะขยายตัว 2.5 %  ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 2.7 % แต่ยังฟื้นตัวจากปี 66 ที่โตเพียง 1.9 % โดยมีสาเหตุสำคัญจากการหดตัวของภาคการผลิต ในอุตสาหกรรมยานยนต์รถสันดาป ทีได้รับผลกระทบจากรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งภาคการผลิตยานยนต์ คิดเป็นสัดส่วนต่อจีดีพี สูงถึง 11%

ส่วนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ หรือเงินหมื่นเฟสที่ 1 ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัว 0.3% ซึ่งถือเป็นระดับใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ 0.35%

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจปี 68 มีความเป็นไปได้สูงที่จะสามารถขยายตัวได้ถึง 3.5 % ซึ่งเพิ่มจากปี 67 ที่ผ่านมาที่ขยายตัวได้เพียง 2.5 %  โดยกรอบการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะอยู่ที่ 2.5-3.5% และมีค่ากลางเฉลี่ยที่โต 3% 

ทั้งนี้ การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 3.3 %ต่อปี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง และมูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว 4.4% ต่อปี สอดคล้องกับความต้องการสินค้าของตลาดโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวคาดว่าจะยังขยายตัวต่อเนื่องด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 38.5 ล้านคน ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนรายได้จากการท่องเที่ยวและส่งเสริมภาคบริการและภาคการผลิตที่เกี่ยวข้อง

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนในปี 68  ปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่แล้ว ที่ติดลบที่ 2.7 % มาเป็น บวก 2.7 % โดยได้รับแรงขับเคลื่อน จากโครงการขนาดใหญ่ที่ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ มีมูลค่าสูงกว่า 1.14 ล้านล้านบาทในปี 67 สูงสุดรอบ 10 ปี และยังมีโครงการยื่นขอส่งเสริมกว่า 3,100 โครงการ  นอกจากนี้ การลงทุนภาครัฐจะขยายตัวที่ 3.4 %ต่อปี ตลอดจนแรงหนุนจากเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 68 ยังส่งผลให้การบริโภคภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวที่ 1.3% ต่อปี

สำหรับ 5 ปัจจัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มจีดีพี ได้เพิ่มขึ้นอีก 0.5 % คือ

1. เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน จากเป้าหมายที่ 75 % เป็น 80 % ซึ่งจะเพิ่มเม็ดเงินลงทุนภาครัฐอีก 65 หมื่นล้านบาท จะช่วยเพิ่มจีดีพีปีนี้ได้อีก 0.11%
2. เร่งการใช้จ่าย โครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต เฟสสามที่จะเริ่มไตรมาสสองของปีนี้ได้อีก 1%
3. โครงการบ้านเพื่อคนไทย คาดจะมีการลงทุนปลายปีนี้ราว 830 ล้านบาท ช่วยจีดีพีได้อีก 002%
4. กระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ในปลายปีนี้ อีก 5 แสนคน ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 5 ล่นคน ช่วยเพิ่มจีดีพี 0.15 %
5. การเร่งรัดโครงการลงทุนเอกชนที่ได้รับการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ โดยเฉพาะโครงการ ดาตา เซ็นเตอร์ และคลาวด์ รีเจียน ซึ่งหากมีการลงทุนจริงจะมีเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท เพิ่มจีดีพีได้อีก 0.19%อีกทั้งจะมีเร่งรัดการเบิกจ่ายของภาครัฐอีกด้วย

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปี 68 คือ

• แนวทางนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และการตอบโต้ของประเทศต่าง ๆ
• ผลกระทบจากสินค้าจีนท่วมตลาดที่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของไทย
• ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทย
• ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลก
• ปัญหาหนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจของไทย

#thefacts #facts #fact #ข่าวจริง #แจกเงินหมื่น #เงินดิจิทัล #จีดีพี67 #เศรษฐกิจ68 #สศค