30 เมษายน 2025
Home » ข่าวเด่น » เปิด 15 สินค้าไทยเสี่ยงหนัก หลังทรัมป์ขึ้นภาษี 37% การค้าจ่อพังแสนล้าน

เปิด 15 สินค้าไทยเสี่ยงหนัก หลังทรัมป์ขึ้นภาษี 37% การค้าจ่อพังแสนล้าน

SHARE THIS

เปิด 15 สินค้าไทยเสี่ยงหนัก หลังทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีไทย 37% ภาคการค้าไทย จับตาหากรัฐบาลเจรจาไม่สำเร็จ ภายใน 1 ปี จะเสียหาย 2.6 หมื่นล้านเหรียญ  

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2568 โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้แถลงเมื่อวันพุธ(2 เม.ย.) ในการออกมาตรการภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้าทั่วโลก โดยจะเก็บภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าสหรัฐฯ และบวกเพิ่มสำหรับอีกหลายสิบชาติ รวมถึงคู่ค้าหลักของอเมริกาบางประเทศ ซึ่งในส่วนไทยจะโดนเก็บภาษีถึง 36-37%

 

ทรัมป์ กล่าวว่า “นี่คือการประกาศเอกราชของเรา  โดยมาตรการภาษีตอบโต้นี้ เป็นการตอบโต้การเก็บภาษีและอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีอื่นๆ ที่ชาติอื่นกำหนดเล่นงานสินค้าอเมริกา   โดยสินค้านำเข้าจากจีนจะถูกรีดภาษีเพิ่มอีก 34% จากเดิมเพิ่มมาแล้ว 20%  ส่วนบรรดาพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯก็ไม่รอด ในนั้นรวมถึงสหภาพยุโรป ที่เจอกับการรีดภาษี 20%

 

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่า มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เมษายน และจะครอบคลุมทั้งหมดราวๆ 60 ประเทศ แต่มาตรการรีดภาษีพื้นฐาน 10% จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์(5เม.ย.)

 

นอกจากนี้ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งปิดช่องโหว่ทางการค้า ยกเลิกกฎ de minimis ซึ่งเป็นกฏที่กำหนดมูลค่าขั้นต่ำในการนำเข้าสินค้าโดยไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งในปัจจุบันสหรัฐฯ อนุญาตให้สินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร ทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้าหากสั่งสินค้าไม่เกิน 800 ดอลลาร์ต่อวัน คำสั่งนี้ครอบคลุมสินค้าจากจีนและฮ่องกง และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน

 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯขึ้นภาษีตอบโต้ไทย 36-37% ว่า รู้สึกตกใจที่สหรัฐฯประกาศเก็บภาษีไทยในอัตราสูงมาก เกินกว่าความคาดหมาย  โดยสหรัฐฯได้คำนวณจากอัตราภาษีที่คู่ค้า เก็บจากสหรัฐฯ และสหรัฐฯเก็บจากคู่ค้า รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าต่าง ๆ ซึ่งของไทยคำนวณได้ 72% และหาร 2 เท่ากับ 36%  แต่ไทยมีคณะทำงานที่เตรียมความพร้อมในการเจรจากับสหรัฐฯไว้แล้ว  

 

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ คาดว่า ถ้าสหรัฐฯขึ้นภาษีตอบไทย 11% จะทำให้การส่งออกของไทยได้รับผลกระทบ 7,000-8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในช่วง 1 ปี ซึ่งหากไทยไม่ทำอะไรเลย หรือถ้าเจรจาต่อรองกับสหรัฐแล้ว ไม่เป็นผลสำเร็จ จะทำให้ไทยสูญเสียการส่งออก แต่ขณะนี้สูงถึง 36-37% ก็อาจเสียหายใกล้เคียง 2.5-2.6 หมื่นล้านเหรียญฯ  หรือคิดเป็นเงินไทยหลายแสนล้านบาท

 

กระทรวงพาณิชย์ ได้ประเมิน รายการสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ 15 รายการ ดังนี้

 

  1. โทรศัพท์มือถือ มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 6,846 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  2. ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 6,095 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  3. ยางรถยนต์ มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 3,513 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  4. เซมิคอนดักเตอร์ มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 2,472 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  5. หม้อแปลงไฟฟ้า มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 2,088 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  6. ชิ้นส่วนอุปกรณ์การพิมพ์ มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 1,501 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  7. ชิ้นส่วนรถยนต์ มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 1,404 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  8. อัญมณีและเครื่องประดับ มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 1,387 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  9. เครื่องปรับอากาศ มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 1,273 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  10. กล้องถ่ายรูป มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 1,107 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  11. เครื่องปรินเตอร์ มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 1,053 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  12. วัตถุดิบอาหารสัตว์ มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 870 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  13. แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 861 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  14. ข้าว มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 797 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  15. ตู้เย็น มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ปี 67 เท่ากับ 742 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

 

#ทรัมป์ #ภาษีตอบโต้ #ไทยถูกเก็บภาษี36 #15สินค้าเสี่ยง #ข่าวจริง #thefacts #facts #fact