เตือนครั้งที่ 5 ลมหนาวระลอกใหม่ สัปดาห์นี้อุณหภูมิลดฮวบ 4-6 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนครั้งที่ 5 ลมหนาวอีกระลอก พยากรณ์สภาพอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่าง 26 ม.ค.- 1 ก.พ. 2568 อุณหภูมิลดฮวบ 4-6 องศา เหนือ อีสานสะท้านเหลือเลขตัวเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนฉบับ 5 ไทยเผชิญลมหนาวอีกระลอก 26 – 28 ม.ค.นี้ โดยระบุว่า ในช่วงวันที่ 26 – 28 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก จะมีอุณหภูมิลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส
ดังนั้น ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น
โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตรห่างฝั่ง และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27 – 28 ม.ค. 68
พยากาณณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศ 7 วันล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 โดยระบุว่า ในวันที่ 26 – 28 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรงก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป
โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร สำหรับในช่วงวันที่ 29 ม.ค. – 1 ก.พ. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่
โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 26 – 28 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 29 ม.ค. – 1 ก.พ. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
สำหรับคาดหมายสภาพอากาศรายภูมิภาค ระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ
ในวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11 – 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 – 29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2 – 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 1 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 2 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 13 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 – 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 26 – 29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 9 – 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3 – 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 1 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 1 ก.พ. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 1 ก.พ. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้าตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 26 – 27 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 28 ม.ค. – 1 ก.พ. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค ในวันที่ 27 – 28 ม.ค. 68 ตั้งแต่ จ. นครศรีธรรมราชขึ้นไป ลมตะวันออกเฉียงเหรือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.สงขลาลงมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 29 ม.ค. – 1 ก.พ. 68 ตั้งแต่ จ. นครศรีธรรมราชขึ้นไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ตั้งแต่ จ.สงขลาลงมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 1 ก.พ. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 1 ก.พ. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
#พยากรณ์อากาศ #อากาศหนาว #อุณหภูมิลด #กรมอุตุนิยมวิทยา #ข่าวจริง #หนาวสะท้าน #หนาวปากสั่น #thefacts #facts #fact