อัปเดต สถานการณ์โรค แอนแทรกซ์ ตาย 1 แนะวิธีป้องกัน แพร่เชื้อ 3 ทาง

อัปเดต สถานการณ์ระบาด โรคแอนแทรกซ์ กรมควบคุมโรค เผยเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน สามารถแพร่เชื้อได้ 3 ทาง พร้อมแนะวิธีป้องกัน สังเกตุอาการ
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดของโรคแอนแทรกซ์ ว่า จากข้อมูลกรมควบคุมโรคระบุว่า “โรคแอนแทรกซ์” (Anthrax) เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อว่า Bacillus anthracis สามารถพบได้ทั่วไปในแหล่งตามธรรมชาติ
เช่น ดิน น้ำ ซึ่งสปอร์ของเชื้อมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมทั้งร้อนและเย็น เชื้อยังสามารถก่อให้เกิดโรคได้แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี โดยเฉพาะในดินที่มีซากสัตว์ตายด้วยโรคแอนแทรกซ์ แต่ยังไม่มีข้อมูลการติดต่อจากคนสู่คน ขอประชาชนอย่าเป็นกังวล
สำหรับสัตว์พาหะส่วนใหญ่ที่พบ คือ โค กระบือ แพะ แกะ โดยสัตว์ที่ติดเชื้อจะมีอาการ ดังนี้ อาการไข้ ซึม ไม่กินอาหาร เจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุและเสียชีวิต การติดเชื้อในคนส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น การชำแหละเนื้อสัตว์ การบริโภคเนื้อสัตว์ดิบ หรือปรุงไม่สุก การสัมผัสกับหนังสัตว์หรือขนสัตว์ที่มีสปอร์ของเชื้อ
โรคแอนแทรกซ์” (Anthrax) เชื้อสามารถแพร่ได้ 3 ทาง
- “การสัมผัส” จากการชำแหละสัตว์ที่ป่วยตายจากโรคแอนแทรกซ์ ผู้ป่วยจะติดเชื้อโดยสปอร์ของเชื้อเข้าสู่บาดแผลและรอยถลอก จะเริ่มมีอาการป่วยหลังสัมผัสโรคประมาณ 1-7 วัน หรืออาจจะมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับตัวโรคและคนที่ได้รับเชื้อ รอยแผลเริ่มจากเป็นตุ่มที่ผิวหนัง ตามมาด้วยตุ่มน้ำใส และแตกออกกลายเป็นแผลหลุมสีดำ คล้ายบุหรี่จี้ หากไม่ได้รับการรักษาจะมีการลุกลามของเชื้อไปยังต่อมน้ำเหลือง และกระจายไปตามกระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษได้
- “การรับประทาน” หากรับประทานเนื้อสัตว์ที่ป่วยดิบหรือปรุงไม่สุก อาจจะติดเชื้อในทางเดินอาหาร มีอาการไข้สูง ไม่สบายท้อง คลื่นไส้ อาเจียน คล้ายกับอาการของอาหารเป็นพิษ ถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา อาจติดเชื้อในกระแสเลือดทำให้เสียชีวิตได้
- “การหายใจ” ซึ่งพบได้น้อยกว่า คือ การหายใจเอาสปอร์ของแอนแทรกซ์เข้าไป โดยเชื้อจะปนเปื้อนอยู่บริเวณที่สัตว์ป่วยหรือเสียชีวิต สามารถฝังตัวอยู่ได้เป็นเดือนหรือเป็นปี ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ไอ หายใจลําบาก หน้าเขียวคล้ำ และเสียชีวิตจากอาการของระบบหายใจล้มเหลว
แนวทางการป้องกัน โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax)
- แนะนำให้ใส่ถุงมือในการชำแหละหรือปรุงเนื้อสัตว์ และล้างมือให้สะอาดจะช่วยลดการปนเปื้อนได้
- อาหารควรปรุงให้สุกจะทำให้ทำลายเชื้อแบคทีเรีย
- ควรเลือกซื้อเนื้อสัตว์จากแหล่งที่เชื่อถือได้และได้มาตรฐาน
- หากพบอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ เนื่องจากโรคนี้สามารถรักษาหายได้โดยใช้ยาปฏิชีวนะ
- กรณีสัมผัสและไม่มีอาการป่วย แพทย์จะมีการให้ยาในการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาการรุนแรง
- หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร ล่าสุดมีรายงานว่าทางการลาวออกประกาศห้ามนำเข้าและส่งผ่านสัตว์จากไทย และอาจมีการสั่งปิดตลาดนัดโคกระบือในภาคอีสาน ซึ่งยังต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการจากกรมปศุสัตว์ในวันที่ 7 พ.ค.68
ส่วนความคืบหน้า สถานการณ์การพบโรคแอนแทรกซ์ใน อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร ยังไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม มียอดผู้ป่วยสะสมยังคงอยู่ที่ 3 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 คน และรักษาในโรงพยาบาล 2 คน ส่วนผู้ที่ต้องเฝ้าระวัง 636 คน ในจำนวนนี้พ้นระยะการเฝ้าระวังแล้ว 538 คน เหลือผู้ต้องเฝ้าระวังอีก 98 คน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 7 พ.ค.นี้
ขณะเดียวกัน ในวันที่ 7 พ.ค.68 เตรียมตั้งศูนย์อำนวยการควบคุมการแพร่ระบาดโรคแอนแทรกซ์ ที่วัดโพนสว่าง บ้านโคกสว่าง ต.เหล่าหมี อ.ดอนตาล เพื่อดูแลการจ่ายยาให้กลุ่มเสี่ยงสัมผัสโรค ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังต้องเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงสัมผัสเชื้อเป็นระยะเวลา 60 วัน
#โรคแอนแทรกซ์ #อาการแอนแทรกซ์ #วิธีป้องกันแอนแทรกซ์ #ข่าวจริง #thefacts #facts #fact