28 มีนาคม 2025
Home » ข่าวเด่น » สรุปแบบสั้นๆ ผลงานรัฐบาลเศรษฐา 60 วัน ทำอะไรไปแล้วบ้าง

สรุปแบบสั้นๆ ผลงานรัฐบาลเศรษฐา 60 วัน ทำอะไรไปแล้วบ้าง

SHARE THIS

สรุปถ้อยแถลง ผลงาน รัฐบาลเศรษฐา 60 วันทำอะไรไปแล้วบ้าง นายกฯ ย้ำชัดเดินหน้าลดค่าครองชีพ เสริมลงทุน ขยายท่องเที่ยว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้ออกรายการพิเศษ “Chance of Possibility จากนโยบายสู่การลงมือทำจริง 60 วัน ภายใต้รัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน” โดยสรุปถึงผลงานของรัฐบาลใน 60 วันแรกของการทำงาน ผ่านนโยบาย Quick Win 3 ประการ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

 

ลดรายจ่าย น้ำมัน-ไฟฟ้า

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มีมาตรการเร่งด่วนระยะสั้นในการลดรายจ่ายให้กับประชาชน คือ ลดค่าไฟจาก 4 บาทกว่า จนล่าสุดเหลือ 3.99 บาท โดยรัฐบาลได้สั่งลด 2 ครั้ง และปรับลดราคาน้ำมันดีเซลแล้ว และจะเริ่มปรับลดราคาน้ำมันเบนซินในวันที่ 10 เดือน พฤศจิกายน 2566 รวมทั้งดูแลปัญหาหนี้ครัวเรือน ลดดอกเบี้ย พักชำระหนี้ให้เกษตรกร  ส่วนการแก้ปัญหาระยะกลางนั้น รัฐบาลก็มีมาตรการเข้าไปดูแลเรื่องการลดหนี้ของหนี้นอกระบบ ที่กัดกร่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่าที่กฎหมายระบุไว้ ทำให้ประชาชนหลุดจากวงโคจรหนี้นอกระบบยาก

 

ขณะที่การเพิ่มรายได้ รัฐบาลมีแนวทางเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาวเกษตรกร เนื่องจาก 40% ของประชากรไทยอยู่ในภาคเกษตรกรรม รัฐบาลจะเข้าไปให้องค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำการเกษตร ใช้กลไกการตลาดหาตลาดใหม่ๆ ไปยังต่างประเทศ ขยายโอกาส นำไปสู่รายได้ของเกษตรกรที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

 

บูมท่องเที่ยวครบทุกมิติ

ส่วนภาคการท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งช่องทางเพิ่มรายได้ รัฐบาลได้ให้วีซ่าฟรีกับชาวจีน ไต้หวัน และอินเดีย รวมถึงคาซัคสถาน ซึ่งเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูง  และยังได้ยกเว้นยื่นแบบ ตม.6 ผ่านด่านสะเดา จ.สงขลา เป็นการชั่วคราว รองรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย  นอกจากนี้ รัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกให้กับชาวรัสเซียที่ต้องการพักผ่อนอยู่ในประเทศไทยเกิน 30 วัน โดยกำลังหารือแก้ไขปัญหากัน

 

พลิกโฉมสนามบินภูธร

ที่สำคัญ รัฐบาลต้องการผลักดันให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปยังเมืองรองนอกจากหัวเมืองหลักด้วย อย่างเช่นที่น่าน กาฬสินธุ์ สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา เพื่อกระจายรายได้ให้ทั่วถึง เม็ดเงินจะไม่ได้กระจุกที่หัวเมืองใหญ่เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะความพร้อมของสนามบิน เช่น ที่สนามบินเชียงใหม่ได้ขยายเวลาให้บริการ 24 ชั่วโมง  รวมถึงกำลังผลักดันสนามบินเมืองรองให้เป็นสนามบินนานาชาติ

 

อย่างในภาคใต้ ได้เริ่มจัดตั้งสนามบินแห่งใหม่พื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนในพังงา กระบี่ และระนอง ต่อไปจะเรียกว่า อันดามัน อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต ส่วนภาคเหนือ อย่าง ลำปาง ลำพูน เชียงราย และน่าน จะเรียกว่า ล้านนา อินเตอร์แนชั่นแนล แอร์พอร์ต ขณะเดียวกันจะอัปเกรดสนามบินจังหวัดน่านให้เป็นสนามบินนานาชาติ เพราะถือเป็นเมืองมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญ

 

เดินหน้าไฮสปีดเทรน ไทย-จีน

ผลงานด้านคมนาคม นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้เข้าร่วมประชุมที่เมืองปักกิ่ง ของประเทศจีนเป็นครั้งที่ 3 พูดคุยถึงประเด็นโลจิสติกส์ทั้งภูมิภาค และยืนยันพร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อขนส่งผลผลิตทางเกษตร ซึ่ง เกษตรกรไทยจะได้ประโยชน์มาก โดยเฉพาะทุเรียน และขณะนี้กำลังวางแผนระบบรางคู่ จุดยุทธศาสตร์สำคัญ อย่างเช่น สะพานข้ามจากหนองคายไป สปป.ลาว  ขณะเดียวกันจะพัฒนาระบบบริหารจัดการสินค้าระหว่างชายแดน (Border Control) ใช้ระบบบริการ Single Window เชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจ ในการขนส่งสินค้าจากไทย ไปขาย

 

ชักชวนนักลงทุน-เพิ่มการค้า

รัฐบาลเดินทางไป UNGA หรือ การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ พบเจอผู้นำระดับโลก เพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs  โดยประเทศไทยใส่ใจเรื่องนี้ พลังงานสะอาด ได้ออกหุ้นกู้สีเขียว จะมีการระดมทุน แสดงเจตจำนงให้ชาวโลกได้รับทราบว่าไทยมีเป้าที่ชัดเจนในการทำ Net Zero Carbon มีการพบปะกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทย เช่น Google, Microsoft, Tesla  เป็นโรงงานผลิต และ Data Center  ในสัปดาห์หน้า รัฐบาลจะเดินทางไปประชุมผู้นำ APEC ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ก็จะมีการเจรจา และลงนาม MOU กับต่างชาติอีกด้วย โดยไทยพร้อมที่จะเป็น Hub ของการผลิตในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ

 

ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปเยี่ยมประเทศในอาเซียน อย่างที่ กัมพูชา บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง พบปะพูดคุยถึงโอกาสการทำธุรกิจ รับฟังปัญหา เพื่อจะได้กลับมาแก้ไขได้อย่างตรงจุด  และองค์กรทางด้านรัฐวิสาหกิจที่ลงทุนเกี่ยวกับความมั่นคงทางด้านอาหาร ปศุสัตว์ และเกษตรกรรม ที่ซาอุดิอาระเบียถึงความต้องการเนื้อวัวจากไทยอีกมาก แต่ไทยมีโรงเชือดใหญ่ที่สุดคือที่จังหวัดชุมพร เชือดได้วันละ 200 ตัวเท่านั้น น้อยกว่าบราซิลที่เชือดวัวสูงถึง 45,000 ตัวต่อวัน รัฐบาลจึงสนับสนุนเทคโนโลยีใหม่ในการเชือด เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น 3 เท่าตามนโยบายที่ประกาศไปก่อนหน้านี้

 

แก้ปัญหาหนี้สิน

ปัญหาหนี้สิน หนี้ครัวเรือน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หนี้ครัวเรือนต่อ GDP ขึ้นจาก 76 มาเป็น 91 ติดอันดับ TOP 20 ของโลก ซึ่งถือว่าสูงมาก รัฐบาลต้องการแก้ไขในส่วน ซึ่งทำได้ 2 แนวทาง คือ การลดหนี้ และการเพิ่มรายได้ โดยรัฐบาลได้ทำงานกับผู้ว่าการแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์ แต่ที่น่ากังวลคือหนี้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 10 ต่อเดือน รัฐบาลจะให้หน่วยงานความมั่นคงให้เข้ามาดูแลในส่วนนี้ด้วย โดยให้นายอำเภอ ผู้กำกับ เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง ประสานระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้มาหาทางออกร่วมกัน

 

ด้านลดความเหลื่อมล้ำ

เรื่องของความเหลื่อมล้ำ รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาสังคม-ความเหลื่อมล้ำ โดยวางไทม์ไลน์แก้ปัญหาไว้ชัดเจนแล้ว และในประเด็นการสมรสเท่าเทียมนั้น รัฐบาลได้สั่งการให้ทำเอกสารเรื่องของการสอบถามความเห็นของทุกภาคส่วน แล้วจะนำเข้าคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นจดหมายฉบับแรกที่จะถูกยื่นเข้าเปิดสภาครั้งถัดไปในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ รวมถึงเรื่องสุราชุมชนก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะที่เรื่องการเกณฑ์ทหารนั้น รัฐบาลตั้งใจที่จะเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ โดยได้หารือกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ เรื่องสรรพกำลังของทหาร ว่าต้องลดอย่างไร และต้องให้เยาวชนมีสิทธิในการเลือกประกอบอาชีพ ส่วนประเด็นการยุบ กอ.รมน.นั้น รู้สึกตกใจ และไม่เคยแถลงนโยบายนี้ออกไป แต่ต้องได้รับการพัฒนาให้เป็นไปตามบริบทของสังคม

 

ช่วงท้าย นายกฯ เศรษฐา ได้ฝากถึงประชาชนไว้ว่า “เรื่องใหญ่ก็คือเรื่องของปากท้อง ซึ่งรัฐบาลนี้ เราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำทุกเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของปากท้อง อะไรทำได้ เราจะทำก่อน”

 

#ผลงานรัฐบาล60วัน  #เศรษฐา #ผลงานรัฐบาล #ผลงานเศรษฐา #เศรษฐาทวีสิน #นายก #ข่าวจริง #Thefacts #Thefactsnews