สรุป”บอสพอล”ออกโหนกระแส ชี้รายได้ 3 ดาราดัง แจ้งความพุ่ง 1 พันล้าน
สรุปประเด็น คดี ดิไอคอนกรุ๊ป วันที่ 14 ต.ค. 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยเหยื่อพุ่งกว่า 1 พันราย ความเสียหาย 300 ล้านบาท บอสพอล เปิดใจครั้งแรกผ่าน โหนกระแส ยันเยียวยาผู้เสียหาย พร้อมเปิดรายได้ 3 บอสดาราดัง
วันที่ 14 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี The Icon Group ดิไอคอนกรุ๊ป ว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ที่รับผิดลอบคดีได้แถลงความคืบหน้าของคดี ได้สรุปภาพรวมของคดี ตั้งแต่วันที่ 10-13 ต.ค. 2567 พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ได้สอบปากคำผู้เสียหายเสร็จสิ้นไปแล้ว 635 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 232.4 ล้านบาทเศษ
สำหรับยอดผู้เสียหายคดีดังกล่าวที่เข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ถึง 15.20 น.นั้น ขณะนี้ตัวเลขยอดจำนวนผู้เสียหาย อยู่ที่ 1,067 คน มูลค่าความเสียหายรวม 378.2 ล้านบาท
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกระบวนการพิจารณาการรับคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เป็นคดีพิเศษ ว่า การรับเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอ มีเกณฑ์พิจารณาอยู่ที่จำนวนผู้เสียหาย 300 คน มูลค่าความเสียหายเกิน 100 ล้านบาท
ขณะนี้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบสำนวนคดี หากมีการรวบรวมพยานหลักฐาน พยานเอกสาร พยานวัตถุ มีการสอบปากคำผู้เสียหาย สอบปากคำผู้ถูกกล่าวหา แล้วพบพฤติการณ์ที่เข้าข่ายอาจเป็นความผิดแชร์ลูกโซ่ตามแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ตำรวจจะต้องมีการแจ้งเรื่องและพฤติการณ์ทางคดีมาให้ดีเอสไอพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 14 ต.ค.67 นายกรรชัย กำเนิดพลอย พร้อมด้วย นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือ บอย ปกรณ์ และ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกันจอมพลัง ได้พาผู้เสียหายหลายสิบราย จาก บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป มาแจ้งความดำเนินคดีที่ห้องประชุมรังสีพราหมณกุล ที่มีการจัดตั้งเป็นวอรูมสำหรับผู้เสียหาย
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ยังได้เปิดใจเป็นครั้งแรกผ่านรายการ โหนกระแส พร้อมกับผู้เสียหายบางส่วน โดยเริ่มต้นพูดคุย บอสพอล ได้ร้องไห้กลางรายการ โดยมีสาระสำคัญว่า ผมต้องรับผิดชอบ แต่รายละเอียด ก็คงให้เหมาะสมกับทุกๆคน เพราะมีผู้เสียหายเกิดขึ้นจำนวนมาก เดี๋ยวลองวิเคราะห์ว่ากลุ่มไหนเสียหายมาก กลุ่มไหนเสียหายน้อย กลุ่มไหนเป็นกลุ่มเปราะบาง มีความจำเป็นเร่งด่วนมีความจำเป็นที่รีบเข้าไปช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ตนก็เตรียมที่จะทำทุกอย่างให้ทุกคนได้บรรเทาความเสียหายจนเขารู้สึกว่ามันยุติธรรมสำหรับเขา ยุติธรรมสำหรับกลุ่มคนทุกคนในนี้ด้วย แล้วก็ยุติธรรมภายใต้กฎหมายด้วย แต่จะช่วยเป็นเงินเท่าไร ยังตอบไม่ได้ แต่ตนจะช่วยจนกว่าบาทสุดท้าย ถ้าบาทสุดท้ายแล้ว แต่ถ้าทรัพย์สินมันถูกอายัดแล้ว ตามกฏหมายตนว่าหลักการหลังจากนั้นทางรัฐ เขาน่าจะเอามาเยียวยา เพราะว่าทรัพย์สินมันไม่ได้หายไปไหน
“ยอมแล้วครับ ผมไม่มีแผนอะไรสำหรับชีวิตแล้ว ผมไม่รู้ว่าผมสู้อยู่กับอะไร ทุกวันนี้กินอะไรก็กลืนไม่เข้า” บอสพอล กล่าวในช่วงหนึ่ง และยังได้พูดถึงรูปแบบเครือข่ายธุรกิจ รวมถึงการทำตลาดแบบตรง
เมื่อถามถึงปมเรื่องโดนรีดเงิน คลิปเสียงที่มีคนบอกว่าให้จ่ายค่าดูแลเพื่อคุ้มครองไม่ให้โดนร้องเรียน บอสพอลยอมรับว่าคลิปเสียงดังกล่าวนี้เป็นเหตุการณ์ก่อนที่จะเกิดประเด็นขึ้น ที่ยอมจ่ายเพราะว่าหลังโดนติดต่อมาหาก็เริ่มคิดว่าหรือว่าเราผิดในจุดนั้นจริง “เชื่อว่าทุกคนมีแผล ต้องมีบางจุดที่เคยผิดพลาดไปบ้าง”
ส่วนเมื่อถามถึงประเด็นรายได้ของ 3 ดาราดัง คุณกันต์ กันตถาวร คุณมิน พีชญา และ คุณแซม ยุรนันท์ ได้รายได้จากส่วนไหนของบริษัท บอสพอล ตอบว่า คุณกันต์สัญญา 5 ปี ผลตอบแทนจ่ายให้แบ่งเป็นทุกๆ เดือนตามยอดขาย คุณมินก็เป็นยอดขายทุกๆ เดือนเหมือนกันแต่น้อยกว่า คุณแซมก็เหมือนกัน ส่วน “บอย ปกรณ์ และ โดม ปกรณ์ ลัม เป็นอีกแบบหนึ่ง เพราะไม่ได้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้าทุกตัว พรีเซนเตอร์สินค้าตัวเดียว ปีหนึ่งก็จ่ายไปเลย
ขอบคุณภาพ รายการ โหนกระแส
#บอสพอล #บอสพอลร้องไห้ #โหนกระแส #หนุ่มกรรชัย #ดีเอสไอ #ดิไอคอนกรุ๊ป #ดีเอสไอ #ข่าวจริง #thefacts #facts #fact
