รมว.พาณิชย์ ชวนชาวนา ปลูกกล้วยแทนทำนา รายได้ไร่ละแสน
พิชัย รมว.พาณิชย์ ชวนชาวนา ปลูกกล้วยแทนทำนา รายได้ไร่ละแสน พร้อมแจงแผนส่งเสริมข้าวหาตลาดใหม่ ดันไร่ละพันเข้า ครม. 2 สัปดาห์
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ตอบกระทู้ของนายณรงเดช อุฬารกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาราคาข้าวและการส่งเสริมรายได้ให้กับเกษตรกรไทย โดยระบุว่าแนวทางแก้ปัญหาราคาข้าวไทยว่า รัฐบาลเตรียมสนับสนุนเงินช่วยเหลือ 1,000 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างสรุปรายละเอียดของมาตรการ คาดจะเสนอเข้าสู่ ครม. 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ จะต้องขอความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อให้แนวทางช่วยเหลือครอบคลุมทุกมิติ โดยราคาข้าวในตลาดอยู่ที่ 8,500 – 8,800 บาทต่อตัน หากมาตรการผ่านจะทำให้เกษตรกรมีรายได้รวมเฉลี่ยประมาณ 10,000 บาทต่อตัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ชาวนาส่วนใหญ่พึงพอใจ
นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังเดินหน้าผลักดันส่งออกสินค้าเกษตรอื่น เพื่อเป็นทางเลือกให้ชาวนาหันมาเพาะปลูกแทน เช่น กล้วย หลังพบว่าญี่ปุ่นมีความต้องการนำเข้ากล้วยสูงถึง 1 ล้านตันต่อปี แต่ไทยสามารถส่งออกได้เพียง 2,000 – 3,000 ตัน จากโควตาทั้งหมด 8,000 ตัน
“ขณะนี้มีการทดลองปลูกกล้วยในจังหวัดนครราชสีมาแล้ว 150,000 ต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายพื้นที่เพาะปลูก โดยหากทำสำเร็จ เกษตรกรไทยจะมีรายได้เฉลี่ยสูงถึง 100,000 บาทต่อไร่ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับชาวนาและเกษตรกรที่ต้องการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกไปสู่พืชที่มีมูลค่าสูงขึ้น”
นอกจากนี้ เตรียมขยายตลาดส่งออกข้าว โดยสัปดาห์หน้าจะหารือกับ เอกอัครราชทูตจีน เพื่อผลักดันการส่งออกข้าวไปจีน พร้อมเร่งเจรจาในตลาด แอฟริกาและอินโดนีเซีย ซึ่งเชื่อว่าจะกลับมาซื้อข้าวไทย แม้ว่าขณะนี้จะยังชะลอการนำเข้าอยู่ ส่วนปัญหาการแข่งขันด้านราคากับอินเดียและเวียดนาม ไทยอยู่ระหว่างหารือร่วมกันเพื่อลดการแข่งขันที่รุนแรงเกินไป หวังสร้างสมดุลราคาข้าวในตลาดโลก และช่วยให้เกษตรกรไทยมีรายได้ที่มั่นคง
นอกจากนี้ ยังมีแนวทางกระจายผลผลิตข้าวผ่านโมเดิร์นเทรด และผลิตข้าวถุงเพื่อดึงซัพพลายออกจากตลาด ซึ่งจะช่วยให้ราคาข้าวไม่ตกต่ำ โดยคาดว่าผลผลิตข้าวจะเริ่มเข้าสู่ตลาดมากขึ้นช่วงกลางเดือนมี.ค.นี้
“กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับเกษตรกรไทย และกำลังดำเนินการทั้งมาตรการระยะสั้น เช่น การพยุงราคาข้าว และมาตรการระยะยาว เช่น การขยายตลาดและส่งเสริมพืชเศรษฐกิจใหม่ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมเชิญชวนเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนา ให้ลงทะเบียนปลูกข้าวนาปรังก่อนวันที่ 30 เม.ย.68 นี้ เพื่อรับเงินสนับสนุนตามมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลต้องการให้เกษตรกรไทยมีรายได้ที่สูงขึ้น และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระยะยาว”
