พรุ่งนี้ นัดโอนเงินหมื่นอีก 4.51 ล้านคน ใครได้สิทธิบ้างเช็กเลย
พรุ่งนี้นัดโอนต่อ 4.51 ล้านคน ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรประชาชนลงท้ายเลข 1,2,3 ส่วนคนที่ยังไม่ได้เงิน คลังขอให้ทำตามนี้
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกดปุ่มเปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 67 แจกเงิน 10,000 บาทให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการเป็นวันแรก โดยมีคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมอย่างคับคั่ง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยจะถูกกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เงินสดจะถึงมือคนไทยมีเงินหมุนเวียนกว่า 1.45 แสนล้านบาท สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ลูกแรก สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ต่อลมหายใจให้ประชาชนรายเล็กที่กำลังเดือดร้อน ในกลุ่มเปราะบางกว่า 14.55 ล้านคน แบ่งเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.40 ล้านคน และคนพิการ 2.15 ล้านคน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ภาพรวมการโอนเงิน 10,000 บาทวันแรก ให้แก่ผู้พิการและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 3.17 ล้านราย เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี โดยเริ่มโอนเข้าบัญชีธนาคารและพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 00.01 -07.30 น. ใช้เวลา 7 ชั่วโมงครึ่งเงินก็ถึงมือทุกคน รอบต่อไปวันที่สองจะโอนตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 26 ก.ย. มีผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ที่มีบัตรประชาชนลงท้ายเลข 1, 2, 3 จำนวน 4.51 ล้านคน และจะโอนต่อวันที่ 27 ก.ย. จำนวน 4.51 ล้านคน วันที่ 30 ก.ย. อีก 2.25 ล้านคน ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้ตลาดสด ตลาดค้าส่ง ตลาดค้าปลีก มีความคึกคักแน่นอน
ส่วนประชาชนที่ยังไม่ได้รับเงิน จะมีการจ่ายเงินซ้ำอีก 3 ครั้ง ได้แก่ ครั้งแรก 22 ต.ค. ครั้งสอง 22 พ.ย. และครั้งสาม 22 ธ.ค. จึงขอให้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนและตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารให้มีสถานะปกติ เช่นเดียวกับผู้พิการอีก 90,000 รายที่มีสถานะต้องแก้ไข เช่น บัตรหมดอายุ หรือข้อมูลบัตรผิดพลาด จะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการให้แล้วเสร็จในเวลา ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับเงิน ส่วนกรณีเจ้าหนี้นอกระบบเข้ามาทวงหนี้นั้น ได้พูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทยไปแล้ว ซึ่งรัฐจะเข้าไปดำเนินการอย่างเด็ดขาด
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนดิจิทัล วอลเล็ต 36 ล้านคนพบว่ามีความซ้ำซ้อนจากสิทธิที่ในกลุ่มเปราะบาง 10 ล้านคน ส่วนกลุ่มเปราะบางที่เหลืออีก 4 ล้านคน อาจเป็นกลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟน ฉะนั้น จะเหลือประชาชนที่ดูแลอีก 26 ล้านคน โดยโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เฟส 2 จะทำต่อแน่นอน แต่ต้องรอการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวัน ส่วนจะจ่ายเงิน 10,000 บาท หรือ 5,000 บาท จะต้องดูความเหมาะสมอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้รับเงินหรือรัฐจ่ายเงินไม่สำเร็จในรอบนี้ กระทรวงการคลัง มีข้อแนะนำว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินซ้ำ (Retry) อีกจำนวน 3 ครั้ง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนและตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารให้มีสถานะปกติ (Active) เพื่อให้พร้อมรับเงินตามโครงการฯ ในรอบการ Retry และสำหรับคนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ หรือผู้ได้รับเงินเบี้ยความพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จะต้องดำเนินการต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา ดังนี้
- – รอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 1 จ่ายวันที่ 22 ต.ค. 67 จะต้องทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 10 ต.ค. 67 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 18 ต.ค. 67
- – รอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 2 จ่ายวันที่ 22 พ.ย. 67 ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 12 พ.ย. 67 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับ เลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 18 พ.ย. 67
- – รอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 3 จ่ายวันที่ 22 ธ.ค. 67 จะต้องทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 3 ธ.ค. 67 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 16 ธ.ค. 67
- – ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
คนพิการ
1.1 เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/check
1.2 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
1.3 Call Center กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2354 3388 ต่อ 701-702 (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ) หรือศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
1.4 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
2.1 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2109 2345 ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
2.2 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทรศัพท์หมายเลข 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
