ซื้อต่อหรือขายทิ้งดี แนะวิธี ลงทุนทอง หลังพุ่งไปบาทละ 54,000

ซื้อต่อหรือขายทิ้งดี แนะวิธีลงทุนทองคำ หลังราคารูปพรรณพุ่งแตะบาทละ 54,000 ชี้ธนาคารกลางทั่วโลก ยังเข้าซื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาทองคำ วันที่ 21 เม.ย. 68 เป็นอีกวันที่มีการปรับราคาขึ้นอย่างร้อนแรง โดยเปิดครั้งแรกขึ้นทันที 500 บาท จากนั้นมีการปรับขึ้นลงสลับกันรวม 10 ครั้ง ตลอดทั้งเพิ่มขึ้น 750 บาท ทำลายสถิติราคาสูงสุดอีกครั้ง โดยปิดตลาดที่
ทองคำแท่ง
- รับซื้อบาทละ 53,100 บาท ขายออกบาทละ 53,200 บาท
ทองรูปพรรณ
- รับซื้อบาทละ 52,40 บาท ขายออกบาทละ 54,000 บาท
สำหรับราคาทองคำโลก Spot เช้าวันนี้ดีดตัวขึ้นแรงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่วันศุกร์สุดสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดทองคำสหรัฐปิดทำการในวันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday) ส่งผลให้ทองคำไม่มีการเคลื่อนไหว โดยปัจจัยสนับสนุนให้ทองคำแพงขึ้นต่อเนื่อง มาจากได้รับปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลต่อการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ด้านนางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน เเอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) กล่าวว่า ปัจจัยสนับสนุนทองคำที่สำคัญในปีนี้ คือการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก โดยล่าสุดสภาทองคำโลก (WGC) ประกาศตัวเลขการถือครองทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก โดยมีการซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 ติดต่อกันในปี 2567 ด้วยปริมาณการเข้าซื้อทองคำระดับ 1,045 ตัน และถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้ว ที่ความต้องการทองคำสูงเกิน 1,000 ตัน
สำหรับปี 2568 ธนาคารกลางทั่วโลก ยังคงซื้อทองคำสุทธิ 24 ตัน ในช่วง 2 เดือนแรก นำโดยธนาคารกลางโปแลนด์ ที่ซื้อทองคำสุทธิรวม 32 ตัน ซึ่งเป็นการซื้อต่อเนื่อง 11 เดือนติดต่อกัน ตามมาด้วยธนาคารกลางจีน (PBOC) ซึ่งซื้อทองคำเป็นอันดับ 2 โดยซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น 10 ตัน ทำให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จีนถือครองทองคำสำรองเพิ่มขึ้น 340 ตัน ล่าสุด ขณะที่ PBOC เผยข้อมูลล่าสุด ในเดือน มี.ค. ยังคงถือทองคำสำรองเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน
คำแนะนำการลงทุนทองคำ
ด้วยระดับราคาและความผันผวนที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ยังมีโมเมนตัมในเชิงบวกอย่างชัดเจน ในช่วงนี้จึงแนะนำหาจังหวะย่อตัวลงเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 3,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากยังยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ จะยังสามารถปรับตัวขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 3,400-3,411 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมแนะนำแบ่งขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่านระดับดังกล่าว อย่างไรก็ดี ในทางกลับกันหากราคาหลุด 3,321-3,300 ดอลลาร์ จะเสียโมเมนตัมในระยะสั้น และต้องระวังว่าราคาทองคำอาจเข้าสู่ช่วงการพักตัวอีกครั้ง
#ราคาทอง #ราคาทองคำ #ทองคำเท่าไร #ลงทุนทอง #ข่าวจริง #thefacts #fact #facts