22 พฤษภาคม 2025
Home » ข่าวเด่น » คลังหั่นงบดิจิทัล วอลเล็ท เหลือ 4.5 แสนล้าน ห้ามซื้อ มือถือ-เครื่องไฟฟ้า

คลังหั่นงบดิจิทัล วอลเล็ท เหลือ 4.5 แสนล้าน ห้ามซื้อ มือถือ-เครื่องไฟฟ้า

SHARE THIS

คลัง หั่นงบดิจิทัล วอลเล็ท เหลือ 4.5 แสนล้าน หลังประเมินคนลงทะเบียนไม่เต็ม 50 ล้านคน ถอยไม่ล้วงเงิน ธ.ก.ส.แล้ว เหลือใช้แค่งบปี 67 และ 68 พร้อมเพิ่มรายการสินค้าต้องห้าม เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มือถือสมาร์ทโฟน แต่ปุ๋ยเคมียังซื้อได้ ส่วนรายละเอียดลงทะเบียน รอนายกฯ นั่งชุดใหญ่เคาะทางการ 15 ก.ค.นี้

 

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับโครงการเติมเงิน ดิจิทัล วอลเล็ท 10,000 บาท ได้สรุปความเห็นที่จะปรับลดวงเงินโครงการจาก 5 แสนล้านบาท เหลือ 4.5 แสนล้านบาท เนื่องจากประเมินว่าผู้มีสิทธิจะมาลงทะเบียนเข้าโครงการไม่ครบทุกคน อาจจะมาลง 90% หรือ 45 ล้านคน แต่หากมีคนสมัครเข้ามาถึง 50 ล้านคนก็สามารถปรับงบเพิ่มเติมได้ให้เพียงพอ นอกจากนี้ ยังได้รับข้อเสนอการปรับแหล่งงบประมาณที่ใช้ทำโครงการ จากเดิมที่จะใช้เงินจาก 3 แหล่ง ได้แก่ 1.การบริหารงบฯ ปี 67 จำนวน 175,000 ล้านบาท 2.การดำเนินการผ่านหน่วยงานภาครัฐ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 172,300 ล้านบาท และ 3.งบประจำปี 68 อีก 152,700 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ จะปรับเป็นใช้เงินจากงบประมาณปี 67 และปี 68 เท่านั้น โดยจะไม่ใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เนื่องจากมีการข้อเสนอจากสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ว่าไม่ควรตั้งงบประมาณที่สูงเกินไป เพราะจะทำให้เสียโอกาสนำเงินไปพัฒนาด้านอื่น โดยยืนยันว่าทุกขั้นตอนจะเป็นไปตามกฎหมาย

 

สำหรับแหล่งเงินที่นำมาใช้ดำเนินโครงการดิจิทัล วอลเล็ท ตามกรอบใหม่ 4.5 แสนล้านบาท มาจากการใช้งบจากงบประมาณปี 67 จำนวน 160,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณเพิ่มเติม 122,000 ล้านบาท และงบประมาณจากการบริหารจัดการอีก 40,000 ล้านบาท และการใช้งบจากงบประมาณปี 68 จำนวน 2.85 แสนล้านบาท แบ่งเป็นงบประจำ 152,700 ล้านบาท และมาจากจากการบริหารจัดการเพิ่มเติมอีก 132,300 ล้านบาท เช่น การใช้งบกลาง งบผูกผันที่ใช้ไม่ทัน หรือทำงบเพิ่มเติม

 

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบปรับเพิ่มรายการสินค้า ที่ไม่สามารถใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ทวอลเล็ทซื้อได้อีก 3 รายการ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์สื่อสาร เช่น โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน เนื่องจากต้องการให้เม็ดเงินดิจิทัล วอเล็ท เกิดกระตุ้นการใช้จ่ายกับสินค้าที่ผลิตในประเทศ อีกทั้งยังป้องกันการกระจุกตัวจากการใช้จ่าย  เพราะสินค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีราคาสูง และผลิตจากนอกประเทศ ส่วนปุ๋ยเคมียังอนุญาตให้เงินดิจิทัลซื้อได้อยู่  

 

“ขอย้ำว่าทั้งหมดยังเป็นมติของคณะอนุกรรมการกำกับ และหลังจากนี้จะต้องเสนอให้ที่ประชุมชุดใหญ่ คณะกรรมการนโยบายเติมเงินโครงการดิจิทัล วอลเล็ท 10,000 บาท ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณา ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ว่าจะเห็นด้วยตามนี้หรือไม่ ซึ่งจะต้องรอความชัดเจนอีกที แต่ยืนยันโครงการจะเดินหน้าตามเดิม เริ่มลงทะเบียนภายในปลายเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้า ผ่านแอพพลิเคชัน ทางรัฐ และปิดลงทะเบียนก่อนสิ้นเดือนก.ย.นี้ ซึ่งประชาชนจะได้รับเงินไปใช้ได้ไตรมาส 4 เหมือนเดิม โดยนายกฯ จะมีการแถลงรายละเอียดขั้นตอน วิธี วันเวลาอีกครั้งวันที่ 24 ก.ค.นี้”

 

ส่วนเงื่อนไขคุณสมบัติยังยึดตามเดิม ทั้งเกณฑ์อายุ 16 ปี เงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท และรายได้ไม่เกิน 8.4 แสนบาท สำหรับการใช้จ่ายอื่นคงตามเกณฑ์เก่า โดยการใช้จ่ายรอบแรกจากประชาชนไปร้านค้ายังต้องใช้จ่ายร้านค้าขนาดเล็กภายในอำเภอ และมีรายการสินค้าต้องห้าม ส่วนการใช้จ่ายรอบสอง ระหว่างร้านค้า จะไม่จำกัดพื้นที่ ขณะที่การถอนเงินออกต้องเป็นร้านค้าในระบบภาษี และเพิ่มเติมต้องมีการลงทะเบียนด้วยเบอร์โทรศัพท์แบบรายเดือนเพื่อป้องกันการทุจริต

 

#ดิจิทัลวอลเล็ท #สินค้าต้องห้าม #ห้ามซื้อมือถือ #ห้ามซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า #ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ท #ยืนยันตัวตนดิจิทัลวอลเล็ท #ข่าวจริง #Thefacts #facts #fact