28 มีนาคม 2025
Home » ข่าวเด่น » ข่าวดี รัฐไม่ขึ้นค่าไฟถึงสิ้นปี ตรึงดีเซลไม่เกินลิตร 33  บ.

ข่าวดี รัฐไม่ขึ้นค่าไฟถึงสิ้นปี ตรึงดีเซลไม่เกินลิตร 33  บ.

SHARE THIS

ครม.เห็นชอบไม่ขึ้นค่าไฟฟ้า และน้ำมันดีเซล คงไฟฟ้าหน่วย 4.18 บาท ถึงสิ้นปี และเพดานดีเซลไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ถึง 31 ต.ค.67

วันที่ 23 ก.ค.2567 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบแนวทางการตรึงค่าไฟฟ้า งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2567 เฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ในอัตรา 3.99 บาทต่อหน่วย ส่วนประชาชนที่ใช้ไฟเกิน 300 หน่วยต่อเดือน เรียกเก็บในอัตราเท่าเดิมที่ 4.18 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ ให้แบ่งทยอยชำระเงินคืนหนี้ภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นงวดๆ ต่อไป เนื่องจากกระทรวงพลังงาน เห็นว่าการจ่ายชำระคืนหนี้ให้ กฟผ. งวดเดียว แล้วให้ประชาชนแบกภาระหนี้ด้วยการจ่ายค่าไฟเพิ่มขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการ ตรึงเพดานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร ไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค. 2567 ตามความสามารถของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จากปัจจุบันกำหนดไว้จะสิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค.นี้

“ความจริงน้ำมันของไทยอยู่ที่ประมาณกว่า 20 บาทต่อลิตร ไม่ต่างจากราคาน้ำมันในประเทศมากนัก แต่สาเหตุที่ราคาน้ำมันในประเทศไทยสูงถึง 38-40 บาทต่อลิตร เพราะน้ำมันของไทยมีส่วนผสมของไบโอดีเซลและเอทานอล ซึ่งในอดีตมีราคาถูกกว่าน้ำมัน แต่ปัจจุบันทั้งไบโอดีเซลและเอทานอลราคาแพงกว่าน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันของไทยแพงกว่าต่างประเทศ ประกอบกับภาษีสรรพสามิตที่เรียกเก็บจากน้ำมันดีเซลของไทยอยู่ในอัตรา 5.99 บาทต่อลิตร สูงกว่าสิงคโปร์ที่เรียกเก็บ 5.54 บาทต่อลิตร และเวียดนามเรียกเก็บภาษีในอัตรา 1.70 บาทต่อลิตร เป็นต้น”

ปัจจุบัน สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด ณ วันที่ 14 ก.ค. 2567 ติดลบ 111,855 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 64,252 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) หรือก๊าซปิโตรเลียมเหลวติดลบ 47,603 ล้านบาท

#คงดีเซล #ดีเซล33บาท #คงค่าไฟฟ้า #ขึ้นค่าไฟ #ค่าไฟฟ้าเท่าไร #ข่าวจริง #Thefacts #facts #fact