กรมอุตุฯ เตือน สัปดาห์นี้หนาวแน่ อุณหภูมิลดฮวบ 4 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่าง 15-21 ธันวาคม 2567 ชี้สัปดาห์นี้หนาวแน่ อุณหภูมิลดฮวบ 4 องศา ภาคใต้ฝนยังหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศ 7 วันล่วงหน้าระหว่าง วันที่ 15 – 21 ธันวาคม พ.ศ. 2567โดยระบุว่า ในช่วงวันที่ 15 – 17 ธ.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นลง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-4 องศาเซลเซียส
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ภาคใต้ตอนล่างและช่องแคบมะละกา ในช่วงวันที่ 15 – 16 ธ.ค. 67 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนในวันที่ 18 – 21 ธ.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบน มีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ยังคงมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวังในช่วงวันที่ 15 – 16 ธ.ค. 67 ขอให้ประชาชนในภาคใต้ โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกให้ระมัดระวังคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 15 – 17 ธ.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง โดยในวันที่ 18 – 21 ธ.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
สำหรับคาดหมายอากาศรายภูมิภาค ระหว่างวันที่ 15 – 21 ธันวาคม พ.ศ. 2567
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 15 – 17 ธ.ค. 67 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนร้อยละ 20 ของพื้นที่ ในวันที่ 15 ธ.ค. 67 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 18 – 21 ธ.ค. 67 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 – 30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 – 11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 15 – 17 ธ.ค. 67 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7 – 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 18 – 21 ธ.ค. 67 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 15 – 17 ธ.ค. 67อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 18 – 21 ธ.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 15 – 17 ธ.ค. 67 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 – 3 เมตร ส่วนในวันที่ 18 – 21 ธ.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 15 – 17 ธ.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 15 – 16 ธ.ค. 67 โดยทางตอนบนของภาคจะมีอากาศเย็น และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 – 29 องศาเซลเซียส
ส่วนในวันที่ 18 – 21 ธ.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างตั้งแต่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จังหวัดสงขลา ลงมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 31 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 15 – 17 ธ.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตั้งแต่ จังหวัดพังงา ขึ้นไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จังหวัดภูเก็ต ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในวันที่ 18 – 21 ธ.ค. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่าง ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 24 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 15 – 17 ธ.ค. 67 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 18 – 21 ธ.ค. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
#อากาศร้อน #ฝนตกหนัก #พายุฤดูร้อน #กรมอุตุนิยมวิทยา #ข่าวจริง #Thefacts #พายุ #พรุ่งนี้ฝนตกไหม #Facts #fact #น้ำป่าไหลหลาก #โคลนถล่ม #ดินสไลด์ #อากาศเย็นลง #ฝนลดลง